* ในช่วงที่ทำการบันทึกวิดีโอเหล่านี้ ข้อกำหนดเรื่องการป้องกันยอดคงเหลือติดลบ ได้เริ่มมีผลมาตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2560 นั่นหมายความว่า แม้ว่าคุณจะไม่มีทางขาดทุนเกินยอดเงินในบัญชีของคุณ แต่คุณก็ยังมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้นอยู่
เทอร์มินัล
ในบทเรียนนี้ คุณจะได้เรียนรู้:
- เทอร์มินัล คืออะไร และคุณสมบัติของมัน
- วิธีการแปลง ปิด และแก้ไขสถานะ
- ระดับมาร์จิ้น คืออะไร และคำนวณอย่างไร
เทอร์มินัลของ xStation 5 ช่วยให้คุณจัดการและตรวจสอบกิจกรรมการซื้อขายทั้งหมดของคุณ คุณจะได้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานะที่เปิด คำสั่งซื้อขายที่รออยู่ ประวัติในบัญชีซื้อขาย การใช้เงินทุน ยอดคงเหลือ ยอดเงินรวม และรายละเอียดเกี่ยวกับมาร์จิ้น
เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีสมุดหรือไดอารี่เพื่อบันทึกและติดตามสถานะ รวมถึงประวัติการซื้อขายของตนเอง เทอร์มินัลของคุณเปรียบเสมือนไดอารี่ดิจิตอลของคุณ และช่วยบันทึกประวัติการซื้อขายทุกครั้งที่คุณเทรด
สถานะที่เปิดอยู่
ในแท็บแรก คือ 'Open positions' คุณสามารถดูรายละเอียดทั้งหมดของสถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่
รายละเอียด เช่น:
- Position: ชื่อผลิตภัณฑ์ที่คุณเทรดและหมายเลข
- Type: ในส่วนนี้ หากเป็นสถานะซื้อ จะขึ้นว่า 'Buy' ส่วนสถานะขาย ขึ้นว่า 'Sell'
- Volume: จำนวนล็อต
- Time: ระบุเวลาที่คุณเปิดสถานะ
- Open price: ราคาที่เปิดสถานะ
- SL/TP: จุดตัดขาดทุนและจุดเอากำไร (กรณีมีการตั้งค่าไว้)
- Market price: ราคาปัจจุบันของผลิตภัณฑ์ที่คุณเทรด
- Commission: ค่าธรรมเนียมเปิดสถานะ (กรณีเรียกเก็บ)
- Swap: ค่าสวอปที่เกิดขึ้น
- Profit: กำไร/ขาดทุนของสถานะที่เปิดไว้
หากคุณเปิดหลายสถานะในผลิตภัณฑ์ฯเดียวกัน พวกมันจะถูกจัดกลุ่มเข้าด้วยกัน และเมื่อคลิกซ้ายตรงบรรทัดสถานะที่เปิดอยู่ คุณสามารถเปิดดูหรือปิดรายการที่แสดงทั้งหมดในกลุ่มนั้น
เปิดข้อมูลกลุ่มทอง:
ปิดข้อมูลกลุ่มทอง:
การปิดสถานะ
หากคลิกซ้ายที่ลูกศรสีแดงบนบรรทัดกลุ่ม คุณสามารถปิดสถานะการซื้อขายหลายรายการได้ภายในคลิกเดียว คุณยังสามารถเลือกได้ว่าจะ 'ปิดสถานะทั้งหมด' 'ปิดเฉพาะสถานะที่ได้กำไร' หรือ 'ปิดเฉพาะสถานะที่ขาดทุน'
หากคุณมีกลุ่มการซื้อขายที่เปิดอยู่มากกว่าหนึ่งกลุ่ม คุณสามารถขยายดูหรือปิดรายการที่แสดงทั้งหมด ด้วยการคลิกขวา
ลองคลิกที่ 'Expand all':
คุณสามารถปิดสถานะซื้อขายทั้งหมดของคุณจากทุกกลุ่ม โดยคลิกปุ่ม 'Close' สีแดง คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ปรับเปลี่ยนมุมมองตาราง
โดยการคลิกขวาในหน้าต่างสถานะที่เปิดอยู่ คุณสามารถเลือกเมนู 'Personalise tables view' เพื่อเพิ่มหรือลบคอลัมน์บางส่วน
หน้าปรับแต่งตารางจะปรากฏขึ้นมา:
- Order: หมายเลขเฉพาะการทำธุรกรรม
- Symbol: สัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
- Margin: จำนวนเงินฝากที่ได้รับการแยกไว้เพื่อรักษาสถานะ
- Comment
- Open origin: ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะที่เปิดบนแพลตฟอร์มของ XTB
xStation 5 ช่วยให้คุณเปลี่ยนลำดับของคอลัมน์เพื่อให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคล เพียงลากและวางคอลัมน์ไปทางซ้ายหรือขวาในแท็บ 'Open positions'
Stop Loss และ Take Profit
ในแท็บ 'Open position' คุณสามารถตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างง่ายดาย
หากต้องการเพิ่ม ลบ หรือเปลี่ยนจุด Stop Loss และ Take Profit เพียงขยายคำสั่งซื้อของคุณโดยคลิกซ้ายที่มันและเลือกสัญลักษณ์ '+' ที่อยู่ใต้คอลัมน์ Stop Loss หรือ Take Profit จากนั้น หน้าต่างใหม่จะปรากฏขึ้น:
ในหน้าต่าง Stop Loss จะมีเมนู:
- SL/TP: ตัวเลขราคาที่ตั้งไว้
- Pips: ค่าปิ๊ป จะเป็นค่าลบสำหรับ Stop Loss หรือค่าบวกสำหรับ Take Profit
- In GBP: ค่าของสกุลเงินหลัก
- Trailing stop: เปิดและปิดการใช้งาน trailing stop สำหรับคำสั่งตัดขาดทุนเท่านั้น
การทบและการแปลงสถานะ
คุณสามารถทบสถานะที่่เปิดอยู่ให้เพิ่มขึ้นอีกสถานะได้ง่ายๆ เพียงคลิกที่ไอคอน 'double position'
สถานะใหม่จะเปิดขึ้นที่ราคาตลาดปัจจุบัน คุณสามารถแปลงสถานะได้ง่ายๆเพียงคลิกเดียวที่ปุ่ม 'Reverse position'
สถานะที่รออยู่
ในหน้าต่าง 'pending order' คุณสามารถแก้ไขหรือลบคำสั่งซื้อขายที่รอดำเนินการอยู่
ที่นี่คุณสามารถดูข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสถานะที่รอดำเนินการอยู่ได้ เช่นเดียวกับในแท็บ 'Open positions' หากต้องการแก้ไขคำสั่งซื้อขายที่ตั้งรอไว้ ให้ดับเบิลคลิกที่รายการนั้น (หรือคลิกขวาและเลือก 'Modify') และหน้าต่างใหม่จะปรากฏขึ้น
หากต้องการลบคำสั่งซื้อขายที่รอดำเนินการอยู่ ก็เพียงคลิกเครื่องหมาย 'x' บนรายการนั้นๆ:
ประวัติ
แท็บ History จะแสดงรายการของสถานะที่ปิดไปแล้วทั้งหมดของคุณ ที่แถบด้านล่างคุณสามารถเลือกและปรับเปลี่ยนช่วงเวลาได้:
นอกจากนี้ คุณยังสามารถดาวน์โหลดประวัติการซื้อขายของคุณออกมาเป็นไฟล์ Excel ได้ด้วย
การใช้เงินทุน
ในแท็บ Cash operations จะมีข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับทุกสถานะที่ปิดไปแล้ว รวมถึงค่าคอมมิชชั่นที่เรียกเก็บ เงินฝากและถอนจากบัญชีของคุณ คุณยังสามารถดาวน์โหลดประวัติต่างๆเหล่านี้ออกมาเป็นไฟล์ Excel ได้ด้วย
หน้าสรุปบัญชี
หน้าต่าง Account summary อยู่ที่ด้านล่างสุดของแพลตฟอร์ม
มันมีข้อมูลสรุปสำหรับบัญชีการซื้อขายทั้งหมดของคุณ:
- Balance: จำนวนเงินที่คุณมีในบัญชีของคุณก่อนเปิดสถานะ
- Equity: ยอดเงินในบัญชีของคุณบวกกำไร/ขาดทุนของสถานะที่เปิดอยู่
- Margin: เงินที่ถูกกันเอาไว้ตั้งสำรองเพื่อรักษาสถานะ
- Free margin: ส่วนต่างระหว่างยอดเงินรวมทั้งหมดในบัญชีของคุณกับมาร์จิ้นที่ตั้งสำรองเพื่อให้ครอบคลุมสถานะที่เปิด มันจะระบุจำนวนเงินคงเหลือที่คุณสามารถใช้เปิดสถานะซื้อขายได้
- Margin level: อัตราส่วนระหว่างยอดเงินรวมทั้งหมดในบัญชีของคุณต่อจำนวนมาร์จิ้น ซึ่งแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
- Profit: กำไร/ขาดทุนของสถานะที่เปิดอยู่ทั้งหมด
หากระดับมาร์จิ้นในบัญชีของคุณสูงถึง 100% คุณยังคงสามารถปิดสถานะที่เปิดอยู่ แต่จะไม่สามารถเปิดสถานะใหม่ได้
Margin Level = (Equity / Margin) x 100
XTB ตั้งระดับรักษามาร์จิ้นของคุณไว้ที่ 30% ซึ่งหมายความว่า หากระดับมาร์จิ้นของคุณต่ำกว่าระดับดังกล่าว แพลตฟอร์มจะเริ่มปิดสถานะที่ขาดทุนโดยอัตโนมัติ นี่เป็นกลไกเพื่อความปลอดภัยอัตโนมัติ ที่จะช่วยปกป้องเงินทุนในบัญชีของคุณและป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนมากเกินไป โดยระบบจะเริ่มปิดสถานะที่ขาดทุนมากที่สุดก่อน ไล่ลงมาตามลำดับ จนกว่าระดับมาร์จิ้นของคุณจะพลิกกลับมาเหลืออย่างน้อย 30%