ตลาดหุ้นในวันจันทร์เผชิญกับแรงกดดันเล็กน้อยจากภาวะการลงทุนที่เริ่มเย็นลง เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังดำเนินต่อ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องภาษีการค้า
ดัชนี DAX ของเยอรมนี ปรับตัวลดลง 0.58%, CAC40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.54%, ขณะที่ FTSE 100 ของอังกฤษ ขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 0.1%
สัญญา DE40 อยู่ในแดนลบเช่นกัน แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นยังไม่ถูกทำลาย
ในด้านรายตัว หุ้นที่โดดเด่นที่สุดในวันนี้คือ Hensoldt ซึ่งราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 12% โดยได้แรงหนุนจากความต้องการด้านความมั่นคงที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรป
ตลาดหุ้นเยอรมนีในปีนี้สามารถแสดงผลการดำเนินงานได้ดีกว่าตลาดหุ้นหลักอื่น ๆ ทั่วโลก โดยสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้ การปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในเยอรมนีกำลังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่อาจช่วยให้ตลาดหุ้นเยอรมนีสามารถรักษาความได้เปรียบเหนือประเทศอื่น ๆ ในยุโรปต่อไปได้
ที่มา: Bloomberg Financial LP
Volatility is currently being seen in the broader European market. Source: xStation
ดัชนี DE40 ของเยอรมนีวันนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แม้สัญญายังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่ค่อนข้างมั่นคง โดยเห็นได้จากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) จุดสนับสนุนที่สำคัญในระยะสั้นยังคงเป็นเส้น EMA 50 วัน (เส้นสีน้ำเงินในกราฟ) ตราบใดที่ไม่หลุดแนวรับนี้ แนวโน้มขาขึ้นก็ยังดูแข็งแกร่งอยู่ ส่วนตัวชี้วัด RSI 14 วัน กำลังลดลงต่ำกว่า 70 จุด ซึ่งทางเทคนิคบ่งชี้ถึงการคลายความร้อนแรงของแรงซื้อหลังจากที่ราคาถูกกดดันขึ้นมาอย่างหนัก
ที่มา: xStation
ข่าวตลาด
หุ้น Hensoldt (HAG.DE) พุ่งขึ้นเกือบ 11.63% ในวันนี้ หลังจาก JP Morgan ปรับเพิ่มราคาคาดการณ์เป้าหมายหุ้นขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 110 ยูโร โดยนักวิเคราะห์เน้นย้ำถึงโอกาสที่แข็งแกร่งของบริษัทในช่วง 5 ปีข้างหน้า และคาดการณ์ผลประกอบการที่โดดเด่นมาก
คำแนะนำล่าสุดของ Hensoldt ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ระบุอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของยอดขายอย่างน้อย 15% จนถึงปี 2030
ราคาหุ้นปัจจุบันกำลังซื้อขายที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ที่มา: xStation
หุ้นบลูชิปรายใหญ่ของเยอรมนีคาดว่าจะเป็นผู้นำการเติบโตของกำไรต่อหุ้นในยุโรปช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และปี 2026 ตามข้อมูลของ Bloomberg โดยกว่า 50% ของการฟื้นตัวของ DAX ที่คาดว่าจะเติบโต 13-15% มาจากบริษัทที่เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ, การเปลี่ยนผ่านพลังงาน, ปัญญาประดิษฐ์ และรถยนต์ไฟฟ้า
การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการการคลังที่คาดว่าจะเพิ่ม GDP ราว 1.6% อาจช่วยหนุนกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 6% ในปี 2026
ขณะเดียวกัน ผลกระทบจากการเก็บภาษีศุลกากรในสหรัฐฯ ดูเหมือนจะจำกัดกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากมีการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น
Source: Bloomberg Financial LP
More news from individual DAX companies. Source: Bloomberg Financial LP
สรุปข่าวเช้า
ข่าวเด่นวันนี้
ตลาดร่วงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์! 🚨
US OPEN: ตลาดหุ้นยังคงร่วงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์