ดัชนีเปิดสูงขึ้น เนื่องจากทรัมป์กลับมาได้เปรียบในตลาดทำนายผล 🔔

• ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดตลาด
• บริษัทเทคโนโลยีเป็นผู้นำในการปรับตัวเพิ่มขึ้น
• ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.25%
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ตลาดในสหรัฐฯ เปิดทำการด้วยความหวังดี โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราต่อรองที่เพิ่มขึ้นสำหรับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความสนใจของตลาดจดจ่ออยู่กับการเลือกตั้งมากจนไม่มีใครคิดถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี ความผันผวนของตลาดอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อใกล้จะสิ้นสุดเซสชันเงินสดในสหรัฐฯ

ในช่วงเช้า อัตราต่อรองสำหรับชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับดัชนีตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม ความหวังดียังคงมีจำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชอบที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ปัจจุบันตลาดถูกครอบงำด้วยการเล่นเก็งกำไร ดังนั้นความผันผวนจึงสูง ณ เวลาที่เผยแพร่ อัตราต่อรองสำหรับชัยชนะของผู้สมัครพรรครีพับลิกันอยู่ที่ 59% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 53% ของเมื่อวาน อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจยังคงสมดุลและอยู่ในขอบเขตของข้อผิดพลาด ขณะนี้ ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต กมลา แฮร์ริส มีคะแนนนำเล็กน้อย โดยเป็นผู้นำที่ 48.7% เทียบกับ 48.6% ของโดนัลด์ ทรัมป์

ในตลาดหุ้น เราสังเกตเห็นการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ เซมิคอนดักเตอร์ ธนาคาร และตลาดทุนเป็นหลัก ที่มา: xStation 5

US500

ดัชนี US500 เพิ่มขึ้น 0.70% สู่ระดับ 5,785 จุด การปรับฐานล่าสุดหยุดลงอย่างสมบูรณ์แบบที่ระดับแนวรับที่ 5,730 จุด พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นแนวรับที่ใกล้ที่สุดในกรณีที่ราคากลับตัวลง ในทางกลับกัน สำหรับฝ่ายขาขึ้น แนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่เหนือ 5,900 จุด

ที่มา: xStation 5

ข่าวบริษัท:

Palantir Technologies (PLTR.US) เติบโต 12% หลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการซอฟต์แวร์ AI ที่สูง โดยเอาชนะประมาณการในทุกตัวชี้วัด บริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ไว้ที่ 767 ล้านเหรียญสหรัฐถึง 771 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 746 ล้านเหรียญสหรัฐ และปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปีงบประมาณ 2024 เป็น 2.805 พันล้านเหรียญสหรัฐถึง 2.809 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดิมที่ 2.742 พันล้านเหรียญสหรัฐถึง 2.750 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่ารายได้เชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ จะสูงเกิน 687 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโต 50% ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานที่ปรับแล้วและคำแนะนำด้านกระแสเงินสดอิสระต่างก็ได้รับการปรับขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณถึงโมเมนตัมทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง

หุ้น Hims & Hers (HIMS.US) ปรับตัวสูงขึ้น 9% หลังจากมีผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง โดยรายรับพุ่งขึ้น 77% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 401.6 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 76 ล้านดอลลาร์ (0.32 ดอลลาร์ต่อหุ้น) จากการขาดทุน 7.4 ล้านดอลลาร์ (-0.04 ดอลลาร์ต่อหุ้น) ในไตรมาส 3 ปี 2023 บริษัทเทเลเฮลท์ยังปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปีงบประมาณ 2024 เป็น 1.46 พันล้านดอลลาร์–1.465 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.37 พันล้านดอลลาร์–1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของจำนวนลูกค้าและการสมัครสมาชิกที่แข็งแกร่ง

หุ้น Cleveland-Cliffs (CLF.US) ลดลง 7% หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 ที่น่าผิดหวัง โดยรายรับลดลงเกือบ 19% เมื่อเทียบเป็นรายปีและมีอัตรากำไรขั้นต้นติดลบ ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์เหล็กลดลง 6.5% และราคาขายสุทธิเฉลี่ยลดลงมากกว่า 13% บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ค่าใช้จ่ายด้านทุนสำหรับปีงบประมาณ 2024 ลงเหลือ 600–650 ล้านดอลลาร์ จากเดิม 650–700 ล้านดอลลาร์ และวางแผนค่าใช้จ่ายด้านทุนแบบสแตนด์อโลนไว้ที่ 600 ล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2025 โดยมุ่งเน้นไปที่การริเริ่มเชิงกลยุทธ์ในสถานที่สำคัญ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความท้าทายทางการเงินและการดำเนินงานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง