Domino's Pizza Group UK ร่วง 16% หลังผลประกอบการอ่อนแอและต้นทุนแรงงานสูง

วันอังคารที่ผ่านมา หุ้นของ Domino’s Pizza Group (DOM.UK) ร่วงหนักที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท ลดลงถึง 16% (เปิดตลาดร่วงเกิน 20%)
การตอบสนองของตลาดครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นักลงทุนตกใจจากการปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีและภาพรวมต้นทุนที่บริษัทแจ้งออกมา

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นตกแรง:

• บริษัทปรับลดคำแนะนำ EBITDA ลงจากเดิมคาดไว้ที่ 141–150 ล้านปอนด์ เหลือ 130–140 ล้านปอนด์ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 146.1 ล้านปอนด์

• ตั้งแต่เดือนเมษายน ค่าประกันสังคมที่นายจ้างต้องจ่ายในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น ซีอีโอ Andrew Rennie ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มนี้เป็น “หลักล้าน” ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทอย่างมาก

• จำนวนร้านใหม่ในครึ่งปีแรกต่ำกว่าคาด บริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ประมาณ 20 กว่าสาขา ลดลงมากจากที่เคยคาดการณ์ไว้กว่า 50 สาขา เนื่องจากแฟรนไชส์ซีระมัดระวังมากขึ้นจากต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น

• กำไรก่อนหักภาษีครึ่งปีแรกลดลง 32% เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 40.5 ล้านปอนด์ แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.4%

• ภาวะราคาสินค้าอาหารที่สูงขึ้นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสั่งกลับบ้านและส่งถึงบ้าน

แม้ว่าผู้บริหารจะชี้ว่ายอดขายแบบเหมือนร้านเดิมดีขึ้นและส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นักลงทุนกลับจับจ้องที่สัญญาณไม่ค่อยดีอื่น ๆ ได้แก่:

• ไม่มีการฟื้นตัวของยอดขายอย่างยั่งยืนในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน

• คาดว่าจะมีแรงกดดันด้านต้นทุนเพิ่มขึ้นหลังการอัปเดตงบประมาณรัฐบาลในฤดูใบไม้ร่วง

• ความล่าช้าในการลงทุนและความระมัดระวังจากแฟรนไชส์ซี

บริษัทยังเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาการเข้าซื้อกิจการแบรนด์ที่สองมาดำเนินงานร่วมกับ Domino’s โดยบอร์ดย้ำว่าจะไม่ออกหุ้นเพิ่มทุน แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้ตลาดกังวลเรื่องความเสี่ยงมากกว่าที่จะเห็นโอกาส

ซีอีโอ Andrew Rennie ระบุว่าแม้สภาพแวดล้อมจะท้าทาย Domino’s ยังคงขยายส่วนแบ่งตลาดด้วยการนำเสนอ “คุณค่าที่ดี สินค้านวัตกรรม และการส่งที่รวดเร็วยิ่งขึ้น” แต่จุดแข็งเหล่านี้ก็ไม่เพียงพอที่จะต้านทานแรงกดดันต้นทุนและความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงได้

สำหรับนักลงทุน ช่วงเวลาที่จะมาถึงจะมีความสำคัญมาก ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของตลาดต่อมาตรการต่อไปของผู้บริหารว่าจะมีการปรับราคาเพิ่มเติมหรือการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์หรือไม่ แต่ในขณะนี้ การร่วงลงของราคาหุ้นครั้งนี้ชัดเจนว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

Source: xStation5