📉 EURUSD ร่วง 0.5%

🇪🇺 🇺🇸 ความสนใจกลับไปที่อัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

EURUSD ร่วง 0.5% หลังมีการประกาศข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
การยุติความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าส่งผลให้ตลาดหันไปให้ความสนใจกับระดับอัตราดอกเบี้ยแทน แม้ว่าความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐฯ อาจช่วยจำกัดการอ่อนค่าของยูโร

การประกาศข้อตกลงดังกล่าวได้หนุนค่าเงิน EURUSD ชั่วคราว ก่อนที่อัตราแลกเปลี่ยนจะร่วงลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 100 ช่วงเวลา (EMA100, สีม่วง)
แหล่งที่มา: xStation5

ข้อตกลงระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้สร้างบรรยากาศแห่งความคึกคักในตลาดหุ้นยุโรป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุด หลังความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจใหญ่ของโลกคลี่คลาย (โดยมูลค่าการค้ารวมระหว่าง EU–US มีมูลค่าสูงกว่า €1.7 ล้านล้าน)

ทางสหภาพยุโรปตกลงยอมรับอัตราภาษีในวงกว้างที่ระดับ 15% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้ารถยนต์และยา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่จะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงยิ่งขึ้น (แม้ว่าการสื่อสารระหว่างบรัสเซลส์และวอชิงตันเกี่ยวกับสองภาคส่วนนี้ยังคงไม่ชัดเจน)

อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่า อัตราภาษีที่ตกลงกันไว้นี้ยังคงสูงกว่าอัตราเดิมที่ 10% และระดับภาษีโดยเฉลี่ยทั้งหมดที่สหรัฐฯ เรียกเก็บในขณะนี้อยู่ในระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930
ดังนั้น ความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อดอลลาร์และหุ้นอาจไม่สอดคล้องกับความเสี่ยงจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั้งในฝั่งยุโรปและสหรัฐฯ — โดย Bloomberg Economics ยังคงคาดการณ์ว่า GDP ของสหรัฐฯ ในปี 2025 จะชะลอลง จาก 1.9% (ก่อนวันชาติ) เหลือเพียง 1.5% (ในปัจจุบัน)

สกุลเงินหลักทั้ง 10 (G10) ได้เข้าสู่ภาวะปรับฐานหลังจากแข็งค่าต่อเนื่องตลอด 6 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (แผนภูมิแสดงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน)
แหล่งที่มา: XTB Research

สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ ช่วงครึ่งหลังของปี 2025 น่าจะเพิ่มแรงกดดันต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์โดยรวม คาดว่า Fed จะยังไม่เริ่มผ่อนคลายนโยบายในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ (29–30 กรกฎาคม) แต่ วัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะเริ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายนหรือตุลาคม หากมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อระลอกใหม่และตลาดแรงงานยังคงมีเสถียรภาพ)

ในระยะสั้น ปัจจัยด้านนโยบายการเงินอาจช่วยหนุนให้เกิดการปรับฐานในคู่ EURUSD แม้ว่า การกลับมาดำเนินนโยบายผ่อนคลายของ Fed และการหยุดพักของ ECB ล่าสุดจะจำกัดพื้นที่ของการเคลื่อนไหวนี้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นักลงทุนอาจเริ่มคาดการณ์การเปลี่ยนผู้นำของ Fed ไปสู่ผู้ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นซึ่งแต่งตั้งโดยทรัมป์ (เนื่องจากวาระของพาวเวลจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2026)

ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน–สหรัฐฯ อายุ 10 ปี (แผนภูมิด้านล่าง สีแดง) กับค่าเงิน EURUSD (แผนภูมิด้านล่าง สีเทา) บ่งชี้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนยัง “มีช่องว่างให้ปรับตัวลง” โดยเฉพาะในระยะสั้น
แหล่งที่มา: XTB Research

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของค่าเงิน EURUSD ของเราแสดงให้เห็นว่า อิทธิพลของความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ (สีส้ม) ต่อการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ในขณะนี้ ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (สีเขียว) เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุด (เชิงลบ) ต่อคู่สกุลเงินนี้
ในทางกลับกัน ค่าคงเหลือ (Residual) ที่เป็นบวกในระดับสูงในเดือนกรกฎาคม (สีเทา) บ่งชี้ว่า EURUSD มีมูลค่าสูงเกินไป เมื่อเทียบกับระดับของปัจจัยพื้นฐานที่วิเคราะห์ไว้ในปัจจุบัน
ข้อมูลในแผนภูมิได้ถูกปรับให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันแล้ว
แหล่งที่มา: XTB Research