🟡 Gold พุ้ง 1.6 %

ทองคำดีดตัวขึ้น 1.6% ทดสอบแนวต้านบริเวณ 3,250 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนตอบสนองต่อกระแส "ขายสินทรัพย์สหรัฐฯ" รอบใหม่

ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 1.6% ทะลุแนวต้านใกล้ระดับ 3,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขานรับแรงเทขายในตลาดสหรัฐฯ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ก่อน ความเสี่ยงกลับมาอีกครั้งเมื่อ Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จากระดับ AAA ลงมาอยู่ที่ AA

ประเด็นสำคัญจากรายงานของ Moody’s

• อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP พุ่งต่อเนื่อง: อัตราส่วนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี และในปี 2024 อยู่ที่ 98% ซึ่งสูงกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ แม้รัฐบาลทรัมป์จะประกาศแผนลดงบประมาณ Moody’s คาดว่าอัตราส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 135% ก่อนถึงปี 2035

• ต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งแรง: ผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการค้าและความกังวลเรื่องภาวะชะงักงันเศรษฐกิจ ทำให้ภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี 2024 ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยคิดเป็น 18% ของรายได้รัฐบาล ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากระดับปี 2021

ราคาทองคำยังได้แรงหนุนทางอ้อมจากภาวะซบเซาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเปิดตลาดวันจันทร์ในแดนลบ ขณะที่นักลงทุนกลับมาอยู่ในโหมดระมัดระวังมากขึ้น ด้านการวิเคราะห์จาก Budget Lab แห่งมหาวิทยาลัยเยล ระบุว่า แม้จะมีการผ่อนปรนภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเมื่อไม่นานนี้ แต่อีกกว่า 40% ของผลกระทบเชิงลบจากภาษีที่มีผลก่อนวันที่ 12 พฤษภาคม ยังคงส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ

GOLD (D1, H1)
กราฟรายวัน (Daily): ราคาทองคำหยุดการปรับตัวลงที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 50 วัน (EMA50, เส้นสีส้ม) บริเวณใกล้ 3,200 ดอลลาร์/ออนซ์

กราฟรายชั่วโมง (Hourly):
โมเมนตัมจาก MACD และ RSI หันมาอยู่ฝั่งของฝั่งซื้อในขณะนี้ แนวต้านสำคัญอาจปรากฏบริเวณ 3,270 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดที่เส้นค่าเฉลี่ย EMA200 และระดับฟีโบนักชี 38.2% มาบรรจบกัน และยังสอดคล้องกับบริเวณที่เคยเป็นคลัสเตอร์ราคาสำคัญในอดีต