- ดัชนีหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักในวันจันทร์ โดย S&P 500 ลดลง 2.3%, Nasdaq 100 ร่วง 3.4% และ Dow Jones Industrial Average ตกลง 1.2% ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้นจากความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยอันเป็นผลจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีการค้าของสหรัฐ
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวยอมรับถึง "ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน" เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความกังวลเรื่องภาวะถดถอยในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาอาจยอมรับความผันผวนในระยะสั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนโยบายการค้าระยะยาว คำพูดดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นลบกำไรทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง
- บรรดาธนาคารวอลล์สตรีทหลายแห่งได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ โดย Goldman Sachs หั่นคาดการณ์ GDP ปี 2025 ลงเหลือ 1.7% จาก 2.4% และ Morgan Stanley ลดประมาณการเหลือ 1.5% จาก 1.9% โดยระบุว่านโยบายการค้าที่เข้มงวดขึ้นมีแนวโน้มส่งผลกระทบมากกว่าที่เคยประเมินไว้
- ความกังวลเกี่ยวกับภาวะ "stagflation" (เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อยังสูง) เริ่มเด่นชัดขึ้น โดย Goldman Sachs ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ใช้เป็นมาตรวัดหลักให้สูงขึ้นเป็น 3% ภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้กลางช่วง 2%
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงหนัก นำโดย "Magnificent Seven" ซึ่งร่วงรวมกัน 5.3% โดยเฉพาะ Tesla ที่ร่วงหนักกว่า 12% แตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง หลัง UBS ปรับลดราคาเป้าหมายจากแนวโน้มความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่อ่อนแอลง
- Bitcoin หลุดระดับ 80,000 ดอลลาร์ ร่วงลงกว่า 27% จากระดับสูงสุดหลังพิธีสาบานตนของทรัมป์ แม้เขาจะมีท่าทีสนับสนุนคริปโต แต่นักลงทุนผิดหวังเมื่อพบว่ากองทุนสำรอง Bitcoin ของรัฐบาลจะใช้เพียงเหรียญที่มีอยู่แล้วเท่านั้น
- ดัชนีความผันผวน VIX แตะระดับสูงสุดของปีนี้ สะท้อนถึงความกังวลของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผลสำรวจจาก AAII ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่คาดว่าราคาหุ้นจะลดลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง โดยบอนด์ 10 ปี ร่วง 7 จุดพื้นฐานมาอยู่ที่ 4.23% เนื่องจากตลาดคาดว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจทำให้ Fed ต้องลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งต่อเนื่องแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ลดลงอีก 1% มาอยู่ที่ 66.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางแรงกดดันจากนโยบายภาษีของทรัมป์, การเพิ่มกำลังผลิตของ OPEC+ และแนวโน้มการเจรจาสันติภาพในยูเครน
- โมฮาเหม็ด เอล-เอเรียน (Mohamed El-Erian) นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ปรับเพิ่มโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็น 25-30% จากเดิม 10% ขณะที่ตลาดเดิมพันให้โอกาส 40% ว่าจะมีการประกาศภาวะถดถอยภายในสิ้นปีนี้
