คู่เงิน USDCNH มีความผันผวนน้อยตั้งแต่ต้นปี แต่ หยวนเพิ่งแตะระดับแข็งค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว คู่เงินนี้ลดค่าลงประมาณ 2.5% ตั้งแต่เดือนมกราคม
ความอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐอย่างกว้างขวางนี้สะท้อนให้เห็นในตลาดโดยทั่วไป โดยคู่เงิน EUR/USD ได้ทะลุระดับ 1.1700 ในวันนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงท่ามกลางความไม่แน่นอนของการค้าระหว่างประเทศ, ปัญหาหนี้สาธารณะที่ใกล้จะเกิดขึ้น และความพยายามใหม่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะลดทอนอำนาจของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด โดย Wall Street Journal รายงานว่า อาจมีการประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่เร็วสุดในฤดูใบไม้ร่วงนี้
มาดูปัจจัยสำคัญในจีนและการเคลื่อนไหวของหยวนกัน:
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือ-
นายกรัฐมนตรีจีน ชี้ว่า ประเทศจะดำเนินมาตรการเด็ดขาดเพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยมุ่งเป้าหมายให้จีนกลายเป็น ขุมพลังผู้บริโภค และเพิ่มความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจต่อแรงกระแทกภายนอก เช่น เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและความตึงเครียดทางการค้า
-
แม้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะยอมรับว่า ความท้าทายในตอนนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถลดผลกระทบเชิงลบให้น้อยที่สุดได้
-
ความเชื่อมั่นนี้ พร้อมกับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวกจากสถาบันอย่าง Goldman Sachs และ Citigroup กำลังดึงดูดเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์จีน สนับสนุนค่าเงินหยวน และผลักดันให้คู่เงิน USD/CNH ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ควรสังเกตว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) กำหนดอัตราอ้างอิงรายวันไว้ที่ระดับสูงกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ควบคุมต้องการรักษาเสถียรภาพอย่างมีการควบคุมเพื่อสนับสนุนการส่งออก
ยิ่งไปกว่านั้น การขยายตลาดทองคำของจีนในฮ่องกงถูกออกแบบมาเพื่อเสริมบทบาทระหว่างประเทศของหยวน ซึ่งเป็นปัจจัยระยะยาวที่หนุนค่าเงินนี้
ในเชิงเทคนิค คู่เงินนี้เพิ่งประสบกับความยากลำบากที่จะเห็นการลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงรักษาแนวโน้มตามเส้นแนวโน้มที่ตั้งขึ้นหลังจากจุดสูงสุดก่อนหน้า
ระดับแนวรับสำคัญที่กำหนดโดย ฟิโบนัชชี 23.6% ของแนวโน้มขาขึ้นใหญ่ตั้งแต่ปี 2022 (เมื่อคู่เงินอยู่ราว ๆ 6.30 หรือต่ำกว่าระดับปัจจุบันประมาณ 12%) กำลังถูกทดสอบ
แนวรับระยะสั้นถัดไปอยู่ใกล้ระดับ 7.14
ส่วนในระยะกลาง นักลงทุนอาจตั้งเป้าระดับต่ำสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ประมาณ 7.00
