ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ยังคงลดลงต่อเนื่อง หลังจากการฟื้นตัวในสองวันที่ผ่านมา โดยความอ่อนแอชัดเจนในภาคเทคโนโลยี ซึ่งหุ้น BigTech ยังคงขาดทุน เหตุผลหลักของการลดลงอย่างรุนแรงมาจากรายงานของ WSJ ที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงภาษีศุลกากรที่จะเกิดขึ้น โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้:
- ภาษี VAT จะถูกนำมาคำนวณเมื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากร
- สหรัฐฯ พิจารณาระบบภาษีศุลกากรสามระดับ แต่ยกเลิกไป
- เจ้าหน้าที่กังวลว่า USTR จะไม่สามารถจัดการกับเอกสารเกี่ยวกับภาษีศุลกากรทั้งหมดได้
- เจ้าหน้าที่กังวลเรื่องความท้าทายทางกฎหมาย
- เจ้าหน้าที่แคนาดากล่าวว่า ภาษีศุลกากรจะเกิดขึ้นแทบจะแน่นอน
- นอกจากภาษีศุลกากรที่มีอยู่แล้ว ภาษี 25% ใหม่จะถูกใช้กับรถยนต์, ยา และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
สาเหตุอีกประการของการลดลงคือข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมและใบอนุญาตก่อสร้างสูงกว่าคาด ตลาดอาจกังวลว่าแถลงการณ์จากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ในวันพรุ่งนี้อาจเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวและระมัดระวัง โดยเฉพาะกับความหวังที่ไม่ชัดเจนในการบรรเทาความตึงเครียดทางการค้าภายใต้การบริหารใหม่
ผลที่ตามมาคือ ดัชนี Nasdaq100 (US100) ร่วงลงเกือบ 2% และหุ้นของบริษัทต่างๆ เช่น Alphabet (GOOGL.US), Meta Platforms (META.US) และ Nvidia (NVDA.US) ลดลงระหว่าง 3.5% ถึง 4% ส่วนหุ้นของ Tesla (TSLA.US) ลดลงเกิน 6% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับส่วนแบ่งตลาดในเอเชีย และการตัดสินใจของโตรอนโตที่ไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการซื้อ Tesla เพื่อใช้เป็นรถแท็กซี่หรือบริการแชร์รถ เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ
บริษัทในภาคน้ำมันและก๊าซทำผลงานได้ดีที่สุดในวันนี้ท่ามกลางความอ่อนแอในภาคเทคโนโลยี ข้อมูลจาก xStation
กราฟแสดงให้เห็นว่าการลดลงในวันนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ ในทางกลับกัน สัญญาดังกล่าวได้ร่วงลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเลขชี้กำลังที่สำคัญ EMA50 และ EMA200 ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ข้อมูลจาก xStation5
หุ้น Zions Bancorporation ร่วง หลัง ตัดจำหน่ายสินเชื่อ!
สรุปข่าวเช้า
Salesforce พุ่ง 8% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ระยะยาว 📈
J.B. Hunt พุ่ง 18% หลังผลประกอบการไตรมาสแข็งแกร่ง 🚀
