ในบทนี้เราจะศึกษาว่า:
- ข้อมูลใดที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน
- ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ตลาดค่าเงิน และตลาดอื่นๆ ได้อย่างไร
- ทำไมการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
การวิเคราะห์พื้นฐานส่วนใหญ่จะอาศัยการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจมหภาค ถึงแม้ว่าตัวชี้วัดบางตัวจะส่งผลกระทบมากกว่าตัวอื่นๆ แต่การเปิดเผยข้อมูลบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามคาด ไม่ว่าจะต่ำหรือสูงกว่าที่ตลาดคาดหวัง ก็สามารถทำให้ตลาดเกิดความผันผวนครั้งใหญ่ได้
เรามาเริ่มจากการศึกษาตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญๆ อันจักสามารถขับเคลื่อนทิศทางของตลาดได้
การจ้างงาน - ชีพจรเศรษฐกิจ
อาจกล่าวได้ว่า ตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของสภาวะเศรษฐกิจก็คือ การจ้างงาน นั่นเป็นเพราะมันส่งผลต่อทุกแง่มุมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ระดับดีมานด์ไปจนถึงซัพพลาย
อัตราการว่างงานแสดงอัตราร้อยละของผู้คนวัยทำงานทั้งหมดที่ว่างงาน ซึ่งกำลังขวนขวายหางานและพร้อมที่จะทำงาน ระดับการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสามารถแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยของประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาณทางลบต่อตลาดการเงินให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในค่าเงิน โดยทั่วไปแล้ว ตลาดจะประมวลข้อมูลและสรุปว่า ยิ่งระดับการว่างงานสูงเท่าไร ค่าเงินก็ยิ่งอ่อนลงเท่านั้น
การจ้างงานนอกภาคการเกษตร
หนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจมหภาคที่มีผลกระทบมากที่สุดในยุคปัจจุบัน คือ อัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ข้อมูลดังกล่าวจะมีการเผยแพร่ออกมาทุกวันศุกร์แรกของเดือน เวลาประมาณ 14.30 น. โดยสรุปตัวเลขการจ้างงานที่เกิดขึ้นใหม่นอกภาคการเกษตร รวมถึงอัตราการว่างงานในเดือนก่อนหน้า
เนื่องจากเกือบ 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯขึ้นอยู่กับผู้บริโภค สถานะของตลาดแรงงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศโดยรวม การเติบโตที่ดีกว่าที่คาด อาจบ่งบอกว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯแข็งแกร่งขึ้นและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงสามารถส่งผลบวกต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯและตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ หรือแม้กระทั่งจำนวนผู้ตกงานที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลในทางตรงกันข้าม โดยเป็นการลดโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และทำให้ค่าเงินดอลลาร์และหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ยังอาจกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้หากนักลงทุนหันไปลงทุนในโลหะมีค่าชนิดนี้
อัตราเงินเฟ้อ - กุญแจสู่การตัดสินใจของธนาคารกลาง
วัตถุประสงค์หลักของธนาคารกลาง คือ การส่งเสริมเสถียรภาพของราคาในระบบเศรษฐกิจ เสถียรภาพของราคาวัดได้จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น นักลงทุนจึงติดตามรายงานเงินเฟ้อเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตของนโยบายของธนาคารกลาง
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการประเมินทางสถิติโดยอาศัยการสุ่มราคาของรายการสินค้าบางชนิดที่มีการรวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวของราคาเป็นระยะๆ ดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นเพียงการวัดอัตราที่เพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการและนำมาคำนวณเป็นหมวดหลักและหมวดย่อยต่างๆ
หากดัชนีราคาผู้บริโภคที่ประกาศออกมาสูงกว่าที่คาดหมาย นั่นแสดงว่ามีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อจะปรับขึ้นสูงและธนาคารกลางอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของค่าเงิน
โดยทั่วไปแล้ว ธนาคารกลางอาจพยายามยับยั้งอัตราเงินเฟ้อด้วยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจนำไปสู่การแข็งตัวของค่าเงิน ในทางกลับกัน ก็สามารถยับยั้งอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งอาจนำไปสู่การอ่อนตัวของค่าเงิน
GDP - ตัวชี้วัดที่แท้จริงทางเศรษฐกิจ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เป็นตัวบ่งชี้ที่ครอบคลุมที่สุดทางเศรษฐกิจของประเทศและแสดงมูลค่าตลาดรวมสำหรับสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตในปีนั้นๆ GDP สามารถส่งผลต่อการเงินการลงทุนและการเติบโตด้านการจ้างงาน นักลงทุนอาจพิจารณาอัตราการเติบโตของประเทศหรือเศรษฐกิจเพื่อตัดสินใจว่า ควรปรับการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆหรือไม่ บรรดานักลงทุนยังมักเปรียบเทียบอัตราการเติบโตของแต่ละประเทศต่าง เพื่อหาโอกาสทางการลงทุนที่ดีที่สุด กลยุทธ์ดังกล่าวอาจรวมถึงการซื้อหุ้นของบริษัทในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น สมมติว่า GDP ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเศรษฐกิจดีกว่าประเทศอื่น คุณก็สามารถซื้อ CFD ตามดัชนี DE30 (ดัชนีราคาหุ้น 30 ตัวที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมัน) เนื่องจากมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้มากกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ
ฝ่าสัญญาณรบกวนสภาวะตลาด
ในแต่ละวัน เกือบทุกชั่วโมง จะมีการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคออกมาจำนวนมาก ดังนั้น คุณจึงอาจรู้สึกสับสนได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ในฐานะเทรดเดอร์ คุณต้องรู้ว่าตัวเลขใดบ้างที่อาจมีผลต่อสถานะที่เปิดอยู่และรู้ว่าข้อมูลใดที่คุณควรให้ความสนใจ ในช่วงเริ่มต้นบนเส้นทางแห่งการเป็นเทรดเดอร์ของคุณ การให้ความสำคัญต่อข้อมูลตัวชี้วัดทั้งสามตัวที่กล่าวถึงข้างต้น จะเป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างมาก ก่อนที่จะขุดลึกลงไปในข้อมูลอื่นๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การสำรวจทางธุรกิจ หรือแม้แต่ยอดค้าปลีก
โปรดจำไว้ว่า นอกเหนือจากสถานการณ์หรือตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมหภาคที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ยังมีข้อมูลและตัวชี้วัดอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องพิจารณา ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อราคาในตลาดการเงิน