ในบทนี้คุณจะได้เรียนรู้ว่า:
- ตลาดฟอเร็กซ์ คืออะไร
- การจับคู่สกุลเงินเกิดขึ้นได้อย่างไร
- จะเปิดสถานะซื้อขาย โดยดูจากการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างไร
ฟอเร็กซ์คืออะไร?
ถ้าจะกล่าวง่ายๆ forex (เขียนแบบย่อๆ ว่า FX) หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ คือ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งไปเป็นอีกสกุลหนึ่งตามราคาที่ตกลงกัน มันเป็นตลาดแบบกระจายอำนาจ โดยที่เราสามารถซื้อขายสกุลเงินต่างๆ ของโลกได้ด้วยตนเอง (over-the-counter) ซึ่งทำให้การซื้อขายมีความรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมถูก และทำรายการเสร็จสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องอาศัยการกำกับดูแล
ฟอเร็กซ์ไม่เคยหลับไหล
โดยพื้นฐานแล้ว การซื้อขายฟอเร็กซ์เป็นการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ด้วยการซื้อเงินสกุลหนึ่งและขายเงินอีกสกุลหนึ่งไปในขณะเดียวกัน ทั้งนี้ การที่ค่าเงินแต่ละสกุลจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น เกิดจากปัจจัยต่างๆ ทางเศรษฐกิจและสภาวะการเมือง รวมถึงปัจจัยทางเทคนิคอื่นๆ ด้วย
ฟอเร็กซ์เป็น ตลาดซื้อขายสากล เปิดทำการ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ (จันทร์ถึงศุกร์) มันเคลื่อนไหลไปตามตะวัน โดยเริ่มเปิดทำการตั้งแต่เช้าวันจันทร์ในนครเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ จากนั้นก็เริ่มเปิดทำการในตลาดเอเชียอย่างเช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ เรื่อยไปจนถึงลอนดอนและปิดท้ายในช่วงเย็นที่นครนิวยอร์ค ตามลำดับ
แม้ว่าตลาดจะปิดทำการตั้งแต่ค่ำวันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์ แต่ก็มักจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว อันจักส่งผลต่อค่าเงินสกุลต่างๆ เมื่อเปิดตลาดในเช้าวันจันทร์
ไม่มีตลาดไหนใหญ่กว่านี้อีกแล้ว
Forex เป็นตลาดที่มีการซื้อขายมากที่สุดของโลก โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยประมาณกว่า 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ค่าเงินแต่ละสกุลมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกันในสกุลต่างๆ และก่อให้เกิดโอกาสมากมายในการซื้อขาย อันเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนทั่วไป
กรณีที่ค่าเงินสองสกุลใดๆ จะมีค่าเทียบเท่ากันนั้น ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เช่นเดียวกับกรณีที่เงินสองสกุลใดๆ จะสามารถคงมูลค่าสัมพัทธ์ให้เท่ากันเป็นระยะเวลาเกินกว่าช่วงเวลาสั้นๆ
Forex - ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
Central Bank- ธนาคารกลาง
Institutional Investors - นักลงทุนสถาบัน
Commercial Banks - ธนาคารพาณิชย์
Brokers - นายหน้าซื้อขาย
Individuals - นักลงทุนรายย่อย
คุณอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่คุณอาจเคยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตลาดฟอเร็กซ์อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณ โดยสมมติว่า คุณกำลังวางแผนวันหยุดเพื่อไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกาและคุณต้องเปลี่ยนเงินที่ใช้จากเงินปอนด์ (GBP) ไปเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ในวันจันทร์ คุณออกไปแลกเงินและพบว่าอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับ GBP/USD คือ 1.45 ดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่า สำหรับเงินทุกปอนด์ที่คุณแลก คุณจะได้ 1.45 ดอลลาร์ และใช้เงิน 100 ปอนด์ เพื่อแลกเงิน 145 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา คุณอาจสังเกตว่า อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดสำหรับ GBP/USD เปลี่ยนเป็น 1.60 ดอลลาร์ ดังนั้น สำหรับเงิน 100 ปอนด์ คุณจะได้ 160 ดอลลาร์ มากกว่าเดิม 15 ดอลลาร์ หากคุณรู้จักรอการเพิ่มขึ้นของเงินปอนด์เทียบกับดอลลาร์
พื้นฐานของการซื้อขายฟอเร็กซ์
อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีความผันผวนตลอดเวลาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ สิ่งที่ผู้เทรดฟอเร็กซ์ต้องทำคือ การหากำไรจากความผันผวนเหล่านี้โดยการคาดการณ์ว่า ราคาจะขึ้นหรือลง
คู่สกุลเงินทั้งหลายที่เทรดในตลาดฟอเร็กซ์ จะถูกแสดงให้เห็นในรูปของสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง แต่ละคู่จะมีสกุลเงินหนึ่งเป็น 'สกุลหลัก'(base) ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แทนสกุลเงินแรกและอีกสกลุเงินหนึ่งเป็น 'สกุลรอง' (counter) ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แทนสกุลเงินที่สอง
เงินแต่ละสกุลสามารถแข็งค่า (สูงขึ้น) หรืออ่อนค่า (ลดลง) และเนื่องจากมีสองสกุลเงินในแต่ละคู่ประกบกัน จึงมีความเป็นได้ใน 4 สถานการณ์ของการซื้อขายฟอเร็กซ์แต่ละคู่
หากคุณเชื่อว่ามูลค่าของสกุลเงินหลักจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินรอง คุณก็เปิดสถานะคำสั่งซื้อ (Long) เงินสกุลหลัก ในทางกลับกัน หากคุณเชื่อว่ามูลค่าของสกุลเงินหลักจะลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินรอง คุณก็เปิดสถานะคำสั่งขาย (short) เงินสกุลหลัก
ตัวอย่างเช่น หากคุณรู้สึกว่าเงิน USD จะแข็งค่า (เพิ่มขึ้น) เมื่อเทียบกับเงิน JPY หรือคิดว่าเงิน JPY จะอ่อนค่า (ลดลง) เมือ่เทียบกับเงิน USD คุณก็เปิดสถานะซื้อคู่เงินของ USD/JPY ในทางกลับกัน หากคุณคาดว่าเงิน JPY จะแข็งค่า (เพิ่มขึ้น) เมื่อเทียบกับเงิน USD หรือคิดว่าเงิน USD จะอ่อนค่า (ลดลง) เมือ่เทียบกับเงิน JPY คุณก็เปิดสถานะขายคู่เงินของ USD/JPY
ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด ตลาดฟอเร็กซ์จึงให้โอกาสคุณทำกำไรได้ทุกวัน ทุกชั่วโมง หรือแม้กระทั่งทุกๆ นาที