3 ตลาดที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ (13.09.2024)

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรง โดยได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น ข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่งเปิดเผย ราคาน้ำมันที่ตกลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2023 และการถกเถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสองคน ได้แก่ ทรัมป์ และแฮร์ริส สัปดาห์หน้าสัญญาว่าจะน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนกำลังเดิมพันความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563

ทองคำ
ราคาทองคำแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากเอาชนะแนวต้านในช่วงไซด์เวย์ระหว่าง 2,480-2,530 USD/ออนซ์ เหตุการณ์สำคัญที่สุดที่นักลงทุนจับตามองคือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) แม้ว่าเดือนกันยายนจะไม่ใช่เดือนที่ดีสำหรับทองคำ แต่ความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดก็ช่วยหนุนราคาทองคำได้ หากเฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% หรือมีสัญญาณว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าสามครั้งในปีนี้ ราคาทองคำก็อาจยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งต่อไป ในทางตรงกันข้าม หาก Fed ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ทองคำอาจปรับตัวแข็งค่าได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะรอดูการตัดสินใจอย่างเป็นทางการในเวลา 01.00 น. เช้าวันพฤหัสบดี (เวลาเวียดนาม)

JAP225 
คู่ USDJPY ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2023 สาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของ USD ซึ่งได้สร้างแรงกดดันต่อดัชนีหุ้น JAP225 ของญี่ปุ่นด้วย ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) คาดว่าจะประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์หน้า แต่หนึ่งวันก่อนหน้านั้น BoJ จะได้รับข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI และข้อมูลนี้จะมีผลกระทบต่อนโยบายตลาดตลอดจนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้น . หากอัตราเงินเฟ้อลดลงและข้อความของธนาคารไม่ได้แสดงท่าทีประหม่าจนเกินไป ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับมาพร้อมกับคู่ USDJPY

GBPUSD
คู่สกุลเงิน GBPUSD มีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2022 การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจอังกฤษและการปรับนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ได้สนับสนุนการแข็งค่าของเงินปอนด์ แม้ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยที่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่ ความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้ก็ยังไม่ค่อยดีนัก อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมยังคงมีอยู่ ดังนั้นแรงกดดันยังคงมีต่อ GBP