Boeing เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 แซงคาด รายได้พุ่ง หุ้นบวกก่อนเปิดตลาด
บริษัท Boeing รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 โดยมีพัฒนาการด้านการดำเนินงานที่ชัดเจน แม้ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านความสามารถในการทำกำไร โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 22.75 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 21.68 พันล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากจำนวนการส่งมอบเครื่องบินพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มการฟื้นตัวของภาพลักษณ์จากปัญหา 737 MAX
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ:
-
ขาดทุนต่อหุ้นแบบ Core: -1.24 ดอลลาร์ (ดีกว่าคาด -1.40 ดอลลาร์)
-
ขาดทุนต่อหุ้นแบบ GAAP: -0.92 ดอลลาร์
-
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน: 227 ล้านดอลลาร์ (จาก -3.9 พันล้านใน Q2/2024)
-
กระแสเงินสดอิสระ (Free cash flow): -200 ล้านดอลลาร์ (จาก -4.3 พันล้าน)
-
การส่งมอบเครื่องบินพาณิชย์: 150 ลำ (+63% YoY)
กลุ่มธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ (Commercial Airplanes):
รายได้จากกลุ่มนี้อยู่ที่ 10.87 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 81% จากปีก่อนหน้า คิดเป็น 47.8% ของรายได้รวมของบริษัท
การผลิต 737 อยู่ที่ 38 ลำต่อเดือน และมีแผนเพิ่มเป็น 42 ลำภายในปีนี้
การผลิต 787 Dreamliner เพิ่มขึ้นเป็น 7 ลำต่อเดือน
แม้รายได้เพิ่มขึ้น กลุ่มนี้ยังขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 557 ล้านดอลลาร์ (ดีขึ้นจากปีที่แล้วที่ขาดทุน 715 ล้านดอลลาร์)
กลุ่มธุรกิจด้านการป้องกันประเทศ อวกาศ และความมั่นคง (Defense, Space & Security):
รายได้อยู่ที่ 6.62 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า
มีกำไรจากการดำเนินงาน 110 ล้านดอลลาร์ เทียบกับขาดทุน 913 ล้านในปีที่แล้ว
อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.7%
กลุ่มบริการทั่วโลก (Global Services):
รายได้อยู่ที่ 5.28 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า
มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานสูงสุดที่ 19.9% (เพิ่มจาก 2.9% ในปี 2020 เป็น 18.13% ในปี 2024)
สถานะการเงินและสภาพคล่อง:
บริษัทมีเงินสดและการลงทุนระยะสั้นรวม 23 พันล้านดอลลาร์ (ลดลงเล็กน้อยจาก 23.7 พันล้านเมื่อต้นไตรมาส)
หนี้สินรวมอยู่ที่ 53.3 พันล้านดอลลาร์ (ลดลงจาก 53.6 พันล้าน)
ยังมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ใช้กว่า 10 พันล้านดอลลาร์
คำสั่งซื้อ (Backlog):
คำสั่งซื้อสะสมอยู่ที่ 619 พันล้านดอลลาร์ เป็นระดับสูงสุดใหม่
รวมเครื่องบินพาณิชย์กว่า 5,900 ลำ คิดเป็นมูลค่า 522 พันล้านดอลลาร์
ไตรมาสนี้ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ 455 ลำ รวมถึงจาก Qatar Airways และ British Airways
จุดเด่น:
-
ยอดส่งมอบเครื่องบินพาณิชย์เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2018
-
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานกลับมาเป็นบวก
-
การผลิต 737 และ 787 ขยายตัวตามเป้าหมาย
-
กลุ่มป้องกันประเทศกลับมามีกำไร
-
กลุ่มบริการมีกำไรต่อเนื่องและมีอัตรากำไรสูง
-
Backlog สูง ช่วยเสริมรายได้ในระยะยาว
ความท้าทาย:
-
บริษัทยังขาดทุนสุทธิ โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องบินพาณิชย์
-
หนี้สินอยู่ในระดับสูงกว่า 50 พันล้านดอลลาร์
-
Free cash flow ยังติดลบ แม้จะดีขึ้นมากจากปีก่อน
มุมมองผู้บริหาร:
CEO Kelly Ortberg กล่าวว่าบริษัทจะมุ่งเน้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่น และเดินหน้ากระบวนการฟื้นตัว โดยมีแผนเพิ่มการผลิต 737 เป็น 42 ลำต่อเดือน และให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยในการผลิต
แนวโน้มราคาหุ้น:
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นประมาณ 1.2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด
ตั้งแต่ต้นปี หุ้นปรับขึ้นแล้วประมาณ 33% โดยเฉพาะหลังเดือนเมษายนซึ่งราคาพุ่งจากระดับ 140 ดอลลาร์ สู่ 240 ดอลลาร์ต่อหุ้น