- Atlassian รายงานรายได้เติบโต 21% ในไตรมาส 1 ปี 2026 หนุนโดยการขยายตัวของธุรกิจคลาวด์และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มขึ้น
- Atlassian รายงานรายได้เติบโต 21% ในไตรมาส 1 ปี 2026 หนุนโดยการขยายตัวของธุรกิจคลาวด์และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มขึ้น
Atlassian รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2026 ดีกว่าที่คาดการณ์ ทั้งรายได้และกำไร
บริษัท Atlassian รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 ที่เหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสูงกว่าคาดการณ์ที่ 1.40 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS แบบปรับปรุงแล้ว) อยู่ที่ 1.04 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.84 ดอลลาร์
ธุรกิจคลาวด์เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
รายได้จากกลุ่มคลาวด์อยู่ที่ 998 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวม ขณะเดียวกัน การนำเครื่องมือ AI ของบริษัทไปใช้งานก็เติบโตโดดเด่น โดยมีผู้ใช้งานต่อเดือนกว่า 3.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 50% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ Atlassian ถูกมองว่าเป็นแพลตฟอร์มเชิงกลยุทธ์ด้าน AI สำหรับลูกค้าองค์กรมากขึ้น
ไฮไลต์ทางการเงินสำคัญ:
-
รายได้รวม: 1.43 พันล้านดอลลาร์ (+21% YoY)
-
กำไรต่อหุ้น (EPS non-GAAP): 1.04 ดอลลาร์ (คาดการณ์ 0.84 ดอลลาร์)
-
รายได้จากคลาวด์: 998 ล้านดอลลาร์ (+26% YoY)
-
กำไรจากการดำเนินงาน (non-GAAP): 322.7 ล้านดอลลาร์
-
ผลขาดทุนจากการดำเนินงาน (GAAP): -96.3 ล้านดอลลาร์ (รวมค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้าง 55.7 ล้านดอลลาร์)
แนวโน้มไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2026:
บริษัทคาดการณ์รายได้อยู่ระหว่าง 1.535–1.543 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.51 พันล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศ โครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ต่อเนื่องจากโครงการเดิมมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ Atlassian สามารถพลิกฟื้นการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่ขาดทุนจากการดำเนินงาน 32 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาเป็นกำไรจากการดำเนินงานแบบ non-GAAP ที่ 322.7 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลข GAAP ยังคงขาดทุนหลักจากค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้าง
ปฏิกิริยาตลาดเป็นบวก
ราคาหุ้น Atlassian ปรับขึ้นเกือบ 8% หลังการประกาศผลประกอบการ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อกลยุทธ์คลาวด์และการเติบโตด้าน AI ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยควรติดตามปัจจัยหลัก ได้แก่
-
ความต่อเนื่องของรายได้จากคลาวด์
-
การยอมรับและใช้งานเครื่องมือ AI อย่างต่อเนื่อง
-
ผลกระทบจากโครงการซื้อหุ้นคืนต่อราคาหุ้น
ความเสี่ยงที่ควรจับตา:
-
ผลขาดทุนจากการดำเนินงาน (GAAP) ที่ยังคงอยู่
-
ความผันผวนของราคาหุ้นจากการขายหุ้นของผู้บริหาร (CEO ขายหุ้นมูลค่า 1.25 ล้านดอลลาร์ก่อนประกาศผล)
-
การพึ่งพารายได้จากธุรกิจคลาวด์และ AI สูง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบหากการย้ายระบบขององค์กรชะลอตัว หรือเกิดข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการกำกับดูแลด้าน AI
Source: xStation5
ข่าวเด่นวันนี้
US100 ร่วง 0.5% 📉 หุ้น Meta ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความกังวล ค่าใช้จ่ายด้าน AI (AI CAPEX) และคำแนะนำของ Deutsche Bank
สมาชิก Fed Bostic และ Hammack แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินสหรัฐ 🔍 Fed แตกแยก?
Scott Bessent สรุปข้อตกลงการค้าสหรัฐ–จีน 🗽