ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในวันนี้ที่ระดับ 64.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบเบรนต์ แม้ว่าจะมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตปานกลางที่ 137,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
OPEC+ ยังได้ประกาศแผน ชะลอการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาส 1 ปี 2026 ซึ่งช่วยสร้างสมดุลต่อการตอบสนองของตลาด การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วงต้นปีหน้า ขณะเดียวกัน มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อผู้ผลิตน้ำมันรัสเซีย ทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านอุปทานจากรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักของ OPEC+ แม้ว่าปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การโจมตีท่าเรือ Tuapse ของรัสเซียโดยโดรนของยูเครน จะเพิ่มความผันผวนให้กับตลาด แต่ตลาดยังคงให้ความสนใจหลักไปที่ความเสี่ยงของน้ำมันล้นตลาดและกิจกรรมอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวในเอเชีย
ภายหลังการตัดสินใจของ OPEC+ Morgan Stanley ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนต์ขึ้นเป็น 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงต้นปี 2026 (จากเดิม 57.50 ดอลลาร์) โดยให้เหตุผลว่าความกังวลเรื่องอุปทานส่วนเกินลดลง ขณะที่ UBS ยังคงคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนต์ในช่วง 60–70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีเป้าหมายปลายปีที่ 62 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดน้ำมันจะยังคงเผชิญแรงกดดันในปี 2026 จาก การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ทำสถิติสูงสุด (13.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และ อุปสงค์ที่อ่อนแอในเอเชีย
ตลาดเด่น: CHN.cash
ข่าวเด่น: คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีเดือนตุลาคมออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้ EURUSD ขยับขึ้น 📌
อีกหนึ่งวันของ Meta – ค่าปรับ, AI และงบลงทุน (CAPEX)
ข่าวเด่นวันนี้:ตลาดเคลื่อนไหวระมัดระวัง รอข้อมูลเงินเฟ้อและการตัดสินใจของ FED