อ่านเพิ่มเติม
เวลาอ่าน: 1 นาที

CFD คืออะไร?

CFD หรือ Contract For Difference หมายถึง สัญญาซื้อขายส่วนต่าง การเทรด CFD ช่วยให้คุณสามารถเปิดสถานะซื้อขายตราสารได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงจริง ทั้งนี้ หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ CFDs คือ ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง

CFD หรือ Contract For Difference หมายถึง สัญญาซื้อขายส่วนต่าง การเทรด CFD ช่วยให้คุณสามารถเปิดสถานะซื้อขายตราสารได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงจริง ทั้งนี้ หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ CFDs คือ ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง

ในบทนี้คุณจะได้เรียนรู้ว่า:

  • CFDs คืออะไร รวมถึงประโยชน์และความเสี่ยงของการเทรด
  • เลเวอเรจ คืออะไรและการใช้ประโยชน์จากมันในทางปฏิบัติ
  • เหตุใด CFDs จึงเป็นที่นิยม

CFDs คืออะไร?

ก่อนอื่นเรามาตอบคำถามขั้นพื้นฐานที่สุดว่า CFD คืออะไร CFD หมายถึง สัญญาซื้อขายส่วนต่าง 

ตามชื่อของมันเลย สัญญาซื้อขายส่วนต่าง คือ สัญญาที่ทำกันระหว่างคู่สัญญาสองฝ่าย (เรียกง่ายๆ คือ 'ผู้ซื้อ' และ 'ผู้ขาย') ซึ่งอ้างอิงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์

มีคุณลักษณะสำคัญหลายประการของ CFD ที่ทำให้มันมีความเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ:

  • CFDs เป็นตราสารอนุพันธ์
  • CFDs มีการเลเวอเรจ (Leverage)
  • คุณสามารถได้กำไรหรือขาดทุนทั้งจากราคาที่สูงขึ้นและลดลง

ทำไม CFD จึงเป็นตราสาร 'อนุพันธ์'

คำว่า 'ตราสารอนุพันธ์' ก็หมายความเพียงว่า เมื่อทำการเทรด CFD คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงอย่างแท้จริง คุณเพียงแค่คาดเดาว่าราคาจะขึ้นหรือลง เมื่อคุณเทรด CFD เท่ากับคุณตกลงทำการแลกเปลี่ยนส่วนต่างระหว่างราคาของสินทรัพย์ ณ ช่วงเวลาที่เปิดสัญญา ไปจนถึงช่วงเวลาที่ปิด

มาอธิบายโดยเปรียบเทียบกับการลงทุนหุ้นแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อ 10,000 หุ้นของ Barclays และราคาหุ้นอยู่ที่ 280 ปอนด์ เงินลงทุนโดยรวมของคุณจะอยู่ที่ 28,000 ปอนด์ ไม่รวมค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่โบรกเกอร์ของคุณจะเรียกเก็บสำหรับการทำธุรกรรม แล้วคุณก็จะได้ใบหุ้นหรือหลักฐานการครอบครองหุ้นมา พูดอีกนัยหนึ่งคือ คุณมีหลักฐานความเป็นเจ้าของหุ้นนั้นอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถทำการขายมันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการทำกำไร

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ CFD คุณไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น Barclays คุณเพียงแค่คาดการณ์เพื่อที่จะทำกำไรการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเท่านั้น

เลเวอเรจ (Leverage) ในการซื้อขาย CFD คืออะไร?

เลเวอเรจ หมายความว่า คุณจะได้รับอำนาจในการซื้อขายปริมาณมากๆ ด้วยการใช้เงินต้นเพียงน้อยนิด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณจะสูงกว่าการซื้อขายในรูปแบบอื่น

ลองกลับมาดูตัวอย่างจากหุ้น Barklays หากคุณจะซื้อ 10,000 หุ้น คุณต้องใช้เงิน 28,000 ปอนด์

ด้วยการเทรดแบบ CFD คุณจะใช้เงินลงทุนเป็นเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สมมติว่า XTB ให้เลเวอเรจคุณ 5:1 หรือ 20% สำหรับการเทรดหุ้น Barclays คุณจะใช้เงินแค่เพียง 5,600 ปอนด์ เพื่อที่จะซื้อหุ้นในปริมาณเดียวกัน

เมื่อราคาหุ้น Barclays เพิ่มขึ้น 10% เป็น 308p มูลค่าของสถานะจะอยู่ที่ 30,800 ปอนด์ ดังนั้น ด้วยการฝากเงินครั้งแรกเพียงแค่ 2,800 ปอนด์การซื้อขาย CFD นี้ทำให้คุณมีกำไร 2,800 ปอนด์ นั่นคือผลตอบแทน 50% จากการลงทุนของคุณเทียบกับผลตอบแทนเพียง 10% หากซื้อหุ้นโดยตรง

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เกี่ยวกับการใช้เลเวอเรจ คือ ในขณะที่มันสามารถเพิ่มผลกำไรของคุณได้ มันก็อาจเพิ่มการขาดทุนของคุณได้ในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น หากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คุณก็จะต้องถูกปิดสถานะโดยอัตโนมัติ (margin call) หรือไม่คุณก็ต้องฝากเงินเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อคงสถานะไว้ นี่คือสาเหตุที่การเข้าใจวิธีจัดการความเสี่ยงของคุณ ถือเป็นสิ่งสำคัญ

หากบาร์เคลย์หุ้นลดลง 10% เหลือ 252p มูลค่าของสถานะคือ 25,200 ปอนด์ ดังนั้น ด้วยเงินฝากเริ่มต้นเพียงแค่ 5,600 ปอนด์ การซื้อขาย CFD นี้จะทำให้คุณขาดทุน 2,800 ปอนด์ นั่นคือผลตอบแทนการลงทุนของคุณ -50% เทียบกับผลตอบแทน -10% หากซื้อหุ้นโดยตรง

'การเทรดด้วยมาร์จิ้น' กับ CFD คืออะไร?

การเทรดด้วยมาร์จิ้นเป็นอีกคำหนึ่งที่ใช้อธิบายการซื้อขายแบบเลเวอเรจ เนื่องจากเราเรียกจำนวนเงินที่ต้องใช้ในการเปิดและรักษาสถานะเลเวอเรจว่า 'มาร์จิ้น'

ขอบข่าย CFDs ของ XTB

เราเสนอ CFD ให้แก่คุณ โดยครอบคลุมการเทรดสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ในตลาดโลกมากกว่า 1,500 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคุณสามารถใช้เลเวอเรจในการเทรดได้ทั้งการซื้อและขาย ในตลาดต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ฟอเร็กซ์
  • ดัชนี
  • หุ้น
  • สกุลเงิน
  • สินค้าโภคภัณฑ์

CFD มีกระบวนการอย่างไร?

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่า CFD คืออะไร ลองมาดูกันว่า CFD มีกระบวนการอย่างไร การทำความเข้าใจหลักการต่อไปนี้และความเกี่ยวข้องกับการเทรด CFD ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า CFD ทำงานอย่างไร 

  • ช่วงราคา (สเปรด) และค่าคอมมิชชั่น
  • ขนาดของสถานะ
  • ช่วงเวลา

ช่วงราคาและค่าคอมมิชชั่น

CFDs จะถูกแสดงให้เห็นเป็นสองราคา คือ ราคาซื้อและราคาขาย ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งจากราคาที่สูงขึ้นและลดลง

  • หากคุณเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์กำลังจะเพิ่มขึ้น คุณก็เปิดสถานะ 'ซื้อ' และคุณจะได้กำไรจากการเพิ่มขึ้นของทุกช่วงราคา
  • หากคุณเชื่อว่าราคาของทรัพย์สินกำลังจะลดลง คุณก็เปิดสถานะ 'ขาย' และคุณจะได้กำไรจากราคาที่ตกลงมาทุกช่วงราคา

แน่นอนว่า หากราคาตลาดไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาด คุณก็จะขาดทุน

ดังนั้น สมมติคุณเชื่อว่าราคาหุ้น Apple จะปรับตัวลง คุณก็แค่เปิดสถานะขาย CFD ของหุ้น Apple แล้วคุณก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากราคา ณ ตอนที่คุณเปิดสถานะ อย่างไรก็ตาม หากราคาหุ้น Apple ปรับตัวเพิ่มขึ้น คุณก็จะขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ จากราคา ณ ตอนที่คุณเปิดสถานะเช่นกัน ปริมาณกำไรหรือการขาดทุนของคุณจะมากเพียงใด ขึ้นอยู่กับปริมาณสถานะที่คุณเปิดและการเคลื่อนไหวของราคาตลาด

ด้วยความที่เราสามารถเทรด CFD ได้ทั้งการซื้อและขาย บวกกับความสามารถที่จะใช้เลเวอเรจได้ ทำให้ CFD เป็นหนึ่งในการเทรดระยะสั้นที่มีความยืดหยุ่นและได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดการเงินของโลก ณ ปัจจุบัน

ขนาดของสถานะ
การเทรด CFD นั้นคล้ายคลึงกับการซื้อขายแบบดั้งเดิมมากกว่าอนุพันธ์อื่น ๆ เช่น ออปชั่นหรือการเดิมพันสเปรด สาเหตุหลักมาจากความจริงที่ว่า CFD มีการซื้อขายด้วย สัญญาที่มีมาตรฐานหรือล็อต ขนาดของแต่ละล็อตขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อ้างอิงที่มีการซื้อขาย ซึ่งมักจะลอกมาจากวิธีการที่สินทรัพย์นั้นซื้อขายในตลาดจริง

ระยะเวลาของการเทรด

โดยส่วนใหญ่แล้ว CFD ไม่มีวันหมดอายุที่แน่นอน เราสามารถปิดสถานะได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิดสถานะซื้อขายในตำแหน่งตรงข้ามกับสถานะที่เราเปิด

1 นาที

ดัชนีหุ้นคืออะไร สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์

1 นาที

ซื้อหุ้นอเมริกา หุ้นต่างประเทศอย่างไร

1 นาที

CFD พื้นฐาน | 8 คําศัพท์พื้นฐานสําหรับการเทรด CFD

เข้าสู่ตลาดพร้อมลูกค้าของ XTB Group กว่า 2 000 000 ราย

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เราให้บริการมีความเสี่ยง เศษหุ้น (Fractional Shares) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการจาก XTB แสดงถึงการเป็นเจ้าของหุ้นบางส่วนหรือ ETF เศษหุ้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอิสระ สิทธิของผู้ถือหุ้นอาจถูกจำกัด
ความสูญเสียสามารถเกินกว่าเงินที่ฝาก