การวิเคราะห์พื้นฐาน คืออะไร

เวลาอ่าน: 1 นาที

ต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งดูการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มเพื่อระบุทิศทางที่ราคากำลังจะเคลื่อนไหวต่อไป นักวิเคราะห์พื้นฐานจะพิจารณาข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อช่วยในการกำหนดมูลค่าสัมพัทธ์ของตลาด จากนั้น พวกเขาจะเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดปัจจุบันราคาที่ตนเองประเมิน เพื่อหาโอกาสในการเข้าซื้อขาย ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะซื้อหุ้น Apple หากประเมินแล้วว่ามูลค่าหุ้นของ Apple สูงกว่าราคาปัจจุบัน

ในบทนี้เราจะมาศึกษาเรื่อง:

  • การวิเคราะห์พื้นฐานคืออะไร
  • บทบาทของธนาคารกลาง
  • ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์เชิงเทคนิค

การวิเคราะห์สองประเภทที่พบบ่อยที่สุดเมื่อพูดถึงตลาดการเงิน คือ การวิเคราะห์พื้นฐานและเชิงเทคนิค

ในระหว่างบทเรียนนี้ เราจะพิจารณาการวิเคราะห์พื้นฐานอย่างละเอียดมากขึ้น

ต่างจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งดูการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มเพื่อระบุทิศทางที่ราคากำลังจะเคลื่อนไหวต่อไป นักวิเคราะห์พื้นฐานจะพิจารณาข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อช่วยในการกำหนดมูลค่าสัมพัทธ์ของตลาด จากนั้น พวกเขาจะเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดปัจจุบันราคาที่ตนเองประเมิน เพื่อหาโอกาสในการเข้าซื้อขาย
 

ลองจินตนาการว่าคุณต้องการจะซื้อรถยนต์ และมีอยู่หนึ่งคันที่คุณเล็งไว้ ซึ่งมีราคา 10,000 ดอลลาร์ แต่คุณไม่รู้ว่านี่เป็นราคาที่ยุติธรรมหรือไม่ ดังนั้น คุณจึงค้นคว้าข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต สอบถามความคิดเห็นของคนอื่น เปรียบเทียบกับราคาที่มีในตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ต่างๆ และทำการวิจัยพื้นฐานทั่วไปเพื่อประเมินว่า ราคาดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ และรถยนต์คันนั้นจะคุ้มค่ากับเงินหรือไม่

สิ่งที่คุณจะทำในสถานการณ์ข้างต้นนี้เอง ที่เรียกได้ว่าเป็นการวิเคราะห์พื้นฐาน เพราะคุณนำปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดมาประเมิน เพื่อตัดสินใจว่า ราคาสินทรัพย์นั้นสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของมันหรือไม่

การค้นหาเงื่อนงำ 

Here are some examples of macroeconomic data releases and why they can have an impact on financial markets:

นักวิเคราะห์พื้นฐานใช้ข้อมูลที่มีอยู่มากมาย รวมถึงรายงานผลประกอบการของบริษัท เหตุการณ์ทางการเมือง นโยบายธนาคารกลาง ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ พวกเขาค้นหาเงื่อนงำเกี่ยวกับทิศทางของตลาดในอนาคต

เบาะแสข้อมูลดังกล่าวมักพบได้ในข้อมูลทางเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การรู้ว่าข้อมูลสำคัญๆ จะถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อไร มีความสำคัญต่อเทรดเดอร์ที่ชอบวิเคราะห์พื้นฐาน ตลาดมีแนวโน้มที่จะมุ่งไปในทิศทางที่เกิดจากการคาดการณ์ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจมหภาค  ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดและก่อให้เกิดความผันผวน

ต่อไปนี้คือตัวอย่างของการเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจมหภาคและสาเหตุที่ข้อมูลเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน:
 

  • เงินเฟ้อ- อัตราเงินเฟ้อเป็นอัตราที่ระดับราคาสินค้าและบริการทั่วไปเพิ่มขึ้น ธนาคารกลางจะพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อและหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืด เพื่อประคองให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาทำได้โดยการขึ้นดอกเบี้ยตัวอย่างเช่น การที่ธนาคารกลางประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจนำไปสู่การแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง 
  • อัตราการว่างงาน - ข้อมูลจากตลาดแรงงาน เช่น ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา อาจมีอิทธิพลอย่างสูงในตลาดการเงินและสามารถจุดประกายความผันผวนในดัชนีต่างๆ และตลาดฟอเร็กซ์ ทั้งนี้ ข้อมูลการจ้างงานจะเผยแพร่ออกมาในวันศุกร์แรกของทุกเดือน โดยมีการแสดงภาพรวมการจ้างงานของชาวสหรัฐฯ ในแต่ละธุรกิจ ตลาดนี้มีความอ่อนไหวต่อข้อมูลประเภทนี้มาก เนื่องจากมีความสำคัญในการระบุอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อตัวอย่างเช่น หากการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น ก็อาจตีความได้ว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโต หากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานนอกภาคเกษตรเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจเป็นการบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าที่คาดไว้ นักเทรดฟอเร็กซ์อาจขายเงิน USD เนื่องจากคาดการณ์ว่า ค่าเงินดังกล่าวจะอ่อนตัวลง แต่หากตัวเลขจ้างงานสูงกว่าที่คาด ค่าเงิน USD ก็อาจแข็งค่าขึ้นเช่นกัน
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) - นี่เป็นตัวชี้วัดผลผลิตของสินค้าและบริการทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางและนักลงทุนจะดูการเติบโตของ GDP เพื่อคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจกำลังแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว บริษัทจะสร้างผลกำไรที่สูงขึ้นและผู้คนมีรายได้มากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นและสกุลเงินที่แข็งแกร่ง
     

วิธีการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคสามารถส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับความคาดหวังของตลาด โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งมีความแตกต่างระหว่างความคาดหวังและความเป็นจริงมากเท่าไร ปฏิกริยาของตลาดก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หากตลาดคาดหวังว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและธนาคารก็ทำเช่นนั้นจริงๆ ตลาดมักจะมีปฏิกิริยาไปในเชิง 'ปรับขึ้นตามคาด' แต่หากข้อมูลที่เผยออกมาไม่เป็นไปตามคาด นั่นจะเป็นการจุดประกายความผันผวนในตลาด

คุณสามารถรับทราบข้อมูลพื้นฐานทั้งหมดได้จากปฏิทินเศรษฐกิจของเราที่ครอบคลุมข้อมูลทุกอย่าง ผลกระทบต่อตลาดขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์ทางเศรษฐศาสตร์มหภาคและความคาดหวังของตลาด ยิ่งแตกต่างมากเท่าไร ก็ยิ่งมีผลต่อตลาดมากเท่านั้น คุณสามารถรับทราบข้อมูลพื้นฐานที่เผยแพร่ด้วยปฏิทินเศรษฐกิจของเราที่ครอบคลุมข้อมูลทุกอย่าง โดยการประกาศข่าวแต่ละครั้ง จะถูกจัดประเภทเป็นสูง ปานกลาง หรือต่ำ ในแง่ของผลกระทบและศักยภาพในก่อให้เกิดความผันผวนของตลาด

ธนาคารกลางควบคุมโลก

อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการวิเคราะห์พื้นฐาน คือ นโยบายการเงินที่ดำเนินการโดยธนาคารกลาง อัตราดอกเบี้ย การดำเนินการในตลาดเปิด และการแทรกแซงของธนาคารกลางมีอิทธิพลต่อสภาวะตลาดและมีการติดตามอย่างใกล้ชิดโดยนักวิเคราะห์ทางการเงินและเทรดเดอร์ ทั้งนี้ ธนาคารกลางที่ทรงอิทธิพลที่สุดบางแห่ง ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ, ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (สหราชอาณาจักร), ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น

ลองมาดูตัวอย่าง เศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น 3% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% เมื่อเทียบปีต่อปี ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูงขึ้น ดังนั้น เทรดเดอร์จึงตัดสินใจที่จะนำเงินของพวกเขามาแลกเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูง การเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถนำไปสู่ความต้องการเงินดอลลาร์ที่สูงขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ โปรดตระหนักว่า ยังมีอีกหลายปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาในตลาด ซึ่งที่กล่าวไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงตัวอย่างเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเท่านั้น
 

ไม่ใช่แค่นักการธนาคารและข้อมูล

การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานยังพิจารณาถึงอิทธิพลภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหรือการเคลื่อนไหวของราคา นอกจากนี้ ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหวก็อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความแข็งแกร่งเชิงพื้นฐานของแต่ละสินทรัพย์ ตัวอย่างเช่น การระเบิดของท่อส่งน้ำมันหลักๆ ก็อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน เนื่องจากการขนส่งหรือซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดนี้ จะกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณสามารถใช้การเทรดแบบ CFDs เพื่อเปิดสถานะซื้อน้ำมัน
 

มุมมองที่แตกต่าง

  • การวิเคราะห์ทางเทคนิคโฟกัสที่การเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มเป็นหลัก ซึ่งต่างจากการวิเคราะห์พื้นฐานที่ใช้ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อกำหนดมูลค่าของตราสารต่างๆ
  • นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อว่า ข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาต้องการนั้นมีอยู่ในแผนภูมิกราฟแล้ว แต่การวิเคราะห์พื้นฐานจะมองไปที่แง่มุมอื่นๆ เช่น ปัจจัยทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงรายรับของบริษัทต่างๆ ด้วย
  • การวิเคราะห์พื้นฐานและทางเทคนิคไม่จำเป็นต้องแยกออกจากกัน ที่จริงแล้ว เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จบางคนยืนยันว่า การผสมผสานการวิเคราะห์ทั้งสองแบบ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น

หากคุณต้องการทราบเพิ่มเติม

Xtb logo

เข้าสู่ตลาดพร้อมลูกค้าของ XTB Group กว่า 1 000 000 ราย

ฟอเร็กและ CFDs เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ และอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียเงินทุนทั้งหมดของคุณ โปรดให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดนี้แล้ว
ความสูญเสียสามารถเกินกว่าเงินที่ฝาก

เราใช้คุกกี้

การคลิก "ยอมรับทั้งหมด" แสดงว่าคุณตกลงที่จะจัดเก็บคุกกี้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อปรับปรุงการใช้งานทางไซต์ วิเคราะห์การใช้งานไซต์ และช่วยเหลือในการทำการตลาดของเรา

คุกกี้ประเภทนี้จำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ของเรา โดยเกี่ยวข้องกับการทำงานด้านต่างๆ เช่น ตั้งค่าภาษา การกระจายข้อมูลการใช้งาน หรือการคงสถานะเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ คุกกี้จำพวกนี้ไม่สามารถปิดการใช้งานได้

ชื่อคุกกี้
คำอธิบาย
SERVERID
userBranchSymbol cc 16 เมษายน 2024
adobe_unique_id cc 15 เมษายน 2025
SESSID cc 16 เมษายน 2024
__cf_bm cc 8 กันยายน 2022
TS5b68a4e1027
TS5b68a4e1027
_vis_opt_test_cookie

เราใช้เครื่องมือเพื่อวิเคราะห์การใช้งานเพจของเรา ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้เราปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนเว็บไซต์ของเราให้ดียิ่งขึ้น

ชื่อคุกกี้
คำอธิบาย
_ga cc 7 กันยายน 2024
_gid cc 9 กันยายน 2022
_gat_UA-146605683-1 cc 8 กันยายน 2022
_gat_UA-121192761-1 cc 8 กันยายน 2022
__hstc cc 7 มีนาคม 2023
__hssrc
__hssc cc 8 กันยายน 2022
_vwo_uuid_v2 cc 16 เมษายน 2025
_vwo_uuid cc 13 เมษายน 2034
_vwo_ds cc 14 กรกฎาคม 2024
_vwo_sn cc 15 เมษายน 2024
_vis_opt_s cc 24 กรกฎาคม 2024

กลุ่มคุกกี้ประเภทนี้ถูกใช้เพื่อแสดงโฆษณาในหัวข้อที่คุณสนใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราติดตามกิจกรรมการตลาด รวมถึงช่วยในการวัดประสิทธิภาพของโฆษณาของเรา

ชื่อคุกกี้
คำอธิบาย
_fbp cc 14 กรกฎาคม 2024
fr cc 7 ธันวาคม 2022
hubspotutk cc 7 มีนาคม 2023

คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บค่าที่คุณตั้งไว้ขณะใช้งานเว็บไซต์ เพื่อให้เมื่อคุณเข้ามาใช้บริการในครั้งถัดไป ค่าเหล่านี้จะพร้อมใช้งานอยู่แล้ว

ชื่อคุกกี้
คำอธิบาย

หน้านี้มีการใช้คุกกี้ คุกกี้คือไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ใช้เพื่อช่วยปรับประสบการณ์การใช้งานเว็บของคุณให้เป็นส่วนตัว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา คุณสามารถจัดการคุกกี้ได้โดยคลิก "การตั้งค่า" หากคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ให้คลิก "ยอมรับทั้งหมด"

เปลี่ยนภูมิภาคและภาษา
ประเทศที่พำนัก
ภาษา