Amazon ร่วง 3% แม้รายได้ไตรมาส 2 เติบโตแข็งแกร่ง
ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ Amazon สูงกว่าคาดการณ์: รายได้เพิ่มขึ้น 13% เทียบกับปีก่อน แตะ 167.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ EPS อยู่ที่ 1.68 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์อย่างมาก อย่างไรก็ตาม หุ้นกลับปรับลดลงราว 3% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อแนวโน้มรายได้จากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด และ อัตรากำไรของ AWS ที่ลดลง
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือตัวเลขสำคัญ:
-
รายได้รวม: 167.7 พันล้านดอลลาร์ (+13% เทียบกับปีก่อน)
-
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน: 11.4%
-
รายได้ AWS: 30.9 พันล้านดอลลาร์ (+17.5%)
-
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน AWS: 32.9%
-
ยอดขายในอเมริกาเหนือ: 100.1 พันล้านดอลลาร์ (+11%)
-
ยอดขายต่างประเทศ: 36.8 พันล้านดอลลาร์ (+16%)
-
รายได้จากโฆษณา: 15.7 พันล้านดอลลาร์ (+23%)
-
EPS: 1.68 ดอลลาร์ เทียบกับ 1.26 ดอลลาร์เมื่อปีก่อน (+33%)
-
กำไรสุทธิ: 18.2 พันล้านดอลลาร์ (+35%)
-
รายได้จากการดำเนินงาน: 19.2 พันล้านดอลลาร์ (+31%)
-
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (TTM): 121.1 พันล้านดอลลาร์ (+12%)
-
กระแสเงินสดอิสระ (TTM): 18.2 พันล้านดอลลาร์ (–66%) — ผลจากการลงทุนใน AI และโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับ AWS?
อัตรากำไรจากการดำเนินงานของ AWS ลดลงเหลือ 32.9% ใน Q2/2025 จาก 39.5% ใน Q1/2025 และ 35.5% ใน Q2/2024 โดยฝ่ายบริหารระบุว่าเกิดจาก ต้นทุนการลงทุนด้าน AI ที่มากในช่วงต้น เช่น การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ (Blackwell), โมเดล Bedrock และเครื่องมือพัฒนาตามเอเจนต์ (Kiro, AgentCore) รวมถึงการขยายศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ทำให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคา พลังงาน และบุคลากรเพิ่มขึ้นก่อนที่รายได้จะสะท้อนเต็มที่
Amazon ย้ำว่าอัตราการใช้งานและโครงสร้างราคาควรปรับดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
ความเห็นจากฝ่ายบริหาร
CEO Andy Jassy ระบุว่า “AI จะเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าทุกคน” พร้อมเน้นการใช้งาน Alexa+, Kiro, Bedrock และ AgentCore ที่เติบโตเร็ว Amazon ยังกล่าวถึงยอดประหยัดสูงสุดในช่วง Prime Day, การขยายการส่งสินค้าภายในวันเดียว, และดีลขนาดใหญ่ของ AWS กับลูกค้าอย่าง PepsiCo, Airbnb, Nissan, SAP
แนวโน้มไตรมาส 3
Amazon คาดรายได้สุทธิอยู่ที่ 174–179.5 พันล้านดอลลาร์ (+10–13% y/y) และ กำไรจากการดำเนินงานที่ 15.5–20.5 พันล้านดอลลาร์ โดยค่ากลางอยู่ที่ 18 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ของวอลล์สตรีทเล็กน้อย (19.5 พันล้านดอลลาร์) แต่ยังสูงกว่าปีก่อน บริษัทคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (+130 bp) แต่เตือนถึง ความไม่แน่นอนจากภาษีและปัจจัยมหภาค เป็นความเสี่ยง
แหล่งข้อมูล