Apple Inc. (AAPL.US) ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ที่มุ่งเน้นไปที่สหรัฐฯ โดยเฉพาะ ซึ่งแผนนี้ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับนโยบายการป้องกันการค้าในรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่
การลงทุนนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งตรงกับช่วงที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง โดยแผนการนี้ถือเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของ Apple ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน Apple ก็มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจในภาค AI และชิป ซึ่งยังมีคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรและความเป็นไปได้ทางการเงิน
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือจุดเด่นสำคัญ: 🔹 การผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน: Apple จะสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ในฮูสตัน เท็กซัส สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ พร้อมขยายศูนย์ข้อมูลในหลายรัฐ เช่น นอร์ทแคโรไลนา ไอโอวา ออริกอน อาริโซนา และเนวาดา
🔹 การสร้างงานใหม่: การลงทุนนี้คาดว่าจะสร้างงานใหม่กว่า 20,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ ซึ่งจะเพิ่มจำนวนพนักงานของ Apple ราว 12% ใน 5 ปีข้างหน้า
🔹 การขยายกองทุนการผลิตขั้นสูง: Apple จะเพิ่มกองทุนการผลิตขั้นสูงในสหรัฐฯ จาก 5 พันล้านดอลลาร์เป็น 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในโรงงานของ TSMC ที่อาริโซนา
🔹 การลงทุนใน AI และ R&D: การลงทุนจำนวนมากจะมุ่งเน้นไปที่ AI, เทคโนโลยีชิปซิลิคอน และศูนย์วิจัยในหลายรัฐ โดยเฉพาะในด้านการเรียนรู้ของเครื่องและการพัฒนาซอฟต์แวร์
🔹 โรงเรียนการผลิตแห่งใหม่: จะมีการเปิดโรงเรียนการผลิตที่เมืองดีทรอยต์ โดยเน้นการฝึกอบรมการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างฐานอุตสาหกรรมของ Apple ในสหรัฐฯ
แม้ว่าแผนการลงทุนนี้จะดูทะเยอทะยาน แต่ก็ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้และผลกำไร โดย Apple ได้ระบุแค่ในส่วนทั่วไปของการลงทุน แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนและผลตอบแทนที่ชัดเจน ซึ่งดูเหมือนว่าแผนการนี้อาจได้รับแรงจูงใจทางการเมืองจากการสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบันมากกว่า
การตอบสนองจากตลาดมีทั้งด้านบวกและลบ โดยหุ้นของ Apple (AAPL.US) เพิ่มขึ้น 1% แต่ในแง่ของการปรับตัวของตลาดเทคโนโลยีโดยรวม การเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยนี้ก็ไม่ได้ดูน่าทึ่งนัก.
Source: xStation 5