คริปโตเคอเรนซีเปิดการซื้อขายวันจันทร์ด้วยการร่วงลงอย่างหนัก หลังแรงขายทำให้เกิดการลิควิดกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลงมากกว่า 0.2% ในวันนี้ แต่ไม่ได้ช่วยให้ราคาบิทคอยน์ฟื้นตัวได้ ตรงกันข้ามกับราคาทองคำที่พุ่งขึ้นกว่า 1% แตะเหนือ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่บิทคอยน์ไม่สามารถตามแนวโน้มขาขึ้นเดียวกันได้
แม้จะไม่มีปัจจัยชัดเจนที่กดดันตลาด แต่สาเหตุหลักมาจากความต้องการป้องกันความเสี่ยง (hedging) ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแรงซื้อเก็งกำไร แม้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยจากเฟดและวอลล์สตรีทโดยรวมยังบวกก็ตาม การร่วงของคริปโตวันนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนต่อตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน ข้อมูลจาก Deribit ชี้ว่ามีความต้องการป้องกันความเสี่ยงใกล้ระดับ 110,000 ดอลลาร์มากขึ้น เนื่องจาก dealer’s gamma ติดลบ
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือBitcoin ภายใต้แรงกดดัน
ราคาบิทคอยน์กลับลงมาใกล้ระดับต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้นอีกครั้ง ระดับ “สมดุล” ที่สำคัญของตลาดอยู่ราว 110,000 ดอลลาร์ การหลุดต่ำกว่าระดับนี้อาจกระตุ้นการลิควิดจากนักลงทุนระยะสั้นที่ถอนเงินออกจาก BTC และเพิ่มความต้องการป้องกันความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว
Source: BGeometrics
กระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETF เริ่มกลับมา
แม้ว่ากองทุน ETF ในสหรัฐฯ จะมีเงินไหลเข้าเชิงบวก แต่ทั้ง Bitcoin และ Ethereum ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ เมื่อวันพฤหัสบดีและศุกร์ที่ผ่านมา หลังการตัดสินใจของเฟด Ethereum ดึงดูดเงินไหลเข้ามากกว่า 130 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Bitcoin มีเงินไหลเข้ามากกว่า 300 ล้านดอลลาร์
Source: Bloomberg Finance L.P, XTB Research
Source: Bloomberg Finance L.P, XTB Research
กราฟ (Bitcoin, Ethereum – กรอบเวลา D1)
บิทคอยน์ปรับฐานลงมาที่ราว 112,000 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญจาก Fibonacci Retracement อยู่ใกล้ 111,000 ดอลลาร์ ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าโซน 110,000 ดอลลาร์ เป็นระดับชี้ชะตาทิศทางในอนาคต การดีดกลับขึ้นเหนือ 115,000 ดอลลาร์ อาจมีความสำคัญอย่างมากในมุมมองของ Price Action
Source: xStation5
Ethereum, meanwhile, has once again tested its local lows from August 21, dropping to $4,100 per ETH.
Source: xStation5