DE40: ดัชนียุโรปร่วง

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปโดดเด่น ในวันนี้ เนื่องจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Meta Platforms และ Microsoft ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเมื่อคืนนี้

ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ก็มีความเคลื่อนไหวสำคัญเช่นกัน:

• สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้ กัมพูชา ไทย และปากีสถาน

• เกาหลีใต้เผชิญภาษีนำเข้า 15% ซึ่งส่งผลลบต่อราคาหุ้นของ Hyundai และ Kia

• สินค้าจาก อินเดียโดนภาษีนำเข้า 25% และสินค้าจาก บราซิลสูงถึง 50%

• การเจรจากับแคนาดาในขณะนี้ดูเหมือนจะ ไร้ผล เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง

ที่มา: xStation

ความผันผวนที่สังเกตได้ในตลาดยุโรปโดยรวมในขณะนี้
ที่มา: xStation

ตลาดยุโรปวันนี้: ดัชนีและหุ้นรายตัว

ดัชนี DE40 ของเยอรมนีปรับตัวลดลง 0.22% ในการซื้อขายวันนี้ แม้จะอ่อนตัวลง แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือแนวรับที่สำคัญ ได้แก่ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 50 วัน และค่าเฉลี่ยกลางของ Bollinger Bands (ใช้ข้อมูลย้อนหลัง 12 วัน โดยมีเส้นบนและล่างเป็นค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2 เท่า)
หากดัชนียังสามารถทรงตัวเหนือระดับเหล่านี้ได้ แนวโน้มขาขึ้นโดยรวมยังถือว่าแข็งแรง
ที่มา: xStation

Heidelberg Materials (HEI.DE)
ราคาหุ้นปรับขึ้นเล็กน้อย หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ดีกว่าคาด

• กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 1.05 พันล้านยูโร (คาดการณ์: 1.03 พันล้านยูโร)

• EBITDA เพิ่มขึ้น 6.8% จากปีก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย

• รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.2% เป็น 5.68 พันล้านยูโร (คาดการณ์: 5.72 พันล้านยูโร)
  นักวิเคราะห์จาก RBC เชื่อว่าหุ้นของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Holcim และประเมินว่าในระยะยาว ช่องว่างของมูลค่าหุ้นเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมจะลดลง
  ฝ่ายบริหารคงเป้าหมายปี 2025 ไว้ที่กำไรจากการดำเนินงาน 3.25–3.55 พันล้านยูโร และ ROIC ประมาณ 10%

Lufthansa (LHA.DE)
ราคาหุ้นลดลงหลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 แม้ตัวเลขส่วนใหญ่จะออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

• EBIT ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 871 ล้านยูโร (+27% เมื่อเทียบรายปี), สูงกว่าคาดที่ 801 ล้านยูโร

• EBIT Margin เพิ่มขึ้นเป็น 8.4% จาก 6.9% ในปีก่อน

• รายได้รวมอยู่ที่ 10.32 พันล้านยูโร (+3.1%), ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 10.58 พันล้านยูโร

• กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.01 พันล้านยูโร มากกว่าปีก่อนเกินเท่าตัว
  แม้เผชิญแรงกดดันด้านต้นทุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและภาษีนำเข้า บริษัทเน้นย้ำถึงผลเชิงบวกจากมาตรการปรับโครงสร้าง และยังคงเป้าหมาย EBIT ปี 2025 ที่ “สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”

JD.com (JD.US)
บริษัท Jingdong Holding Germany ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JD.com ได้เสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ Ceconomy (CEC.DE) ในราคาหุ้นละ 4.60 ยูโร

• ข้อเสนอนี้มีมูลค่าสูงกว่าราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือนถึง 42.6%

• JD.com ได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นกลุ่ม Convergent และได้ถือครองหุ้นแล้ว 57.1% ก่อนยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ

• ดีลดังกล่าวจะใช้เงินสดของบริษัทและเงินกู้เพื่อการเข้าซื้อกิจการ คาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2026

Ferrari (RACE.IT)
ราคาหุ้นลดลงมากถึง 6% หลังจากประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 แม้ภาพรวมยังออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

• รายได้เพิ่มขึ้น 4% เป็น 1.79 พันล้านยูโร

• EBIT เพิ่มขึ้น 8% เป็น 552 ล้านยูโร สูงกว่าคาด

• EBITDA เพิ่มขึ้น 6% เป็น 709 ล้านยูโร

• กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.9% เป็น 425 ล้านยูโร
  บริษัทระบุว่าข้อตกลงทางการค้าใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปส่งผลให้ต้นทุนภาษีนำเข้าลดลง และคำสั่งซื้อยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยอดขายและการส่งมอบต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลง
  เฟอร์รารียังเน้นว่าความภักดีของลูกค้าและความหรูหราของแบรนด์ช่วยให้บริษัทสามารถผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้บางส่วน

ราคาหุ้นของบริษัทลดลง 6% และกำลังหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (EMA) ซึ่งแสดงด้วยเส้นสีทองบนกราฟ
ที่มา: xStation

ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เยอรมนี - Bloomberg Financial L.P