- ตลาดทรงตัวก่อน Nvidia ประกาศงบ – นักลงทุนจับตาการผลิตชิป Blackwell และผลกระทบจากจีน
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยดัชนี US500 ลดลง 0.2% ดัชนี US100 ทรงตัว และ US30 ลดลง 0.3% นักลงทุนรอดูผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2026 ของ Nvidia ที่จะประกาศหลังปิดตลาด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ 43.1 พันล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 0.89 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปีก่อน
- ผลประกอบการของ Nvidia มีความสำคัญต่อทิศทางการลงทุนในกลุ่มหุ้น AI โดยตลาดออปชันประเมินว่าอาจเกิดความผันผวนของราคาหุ้นในช่วงหลังประกาศผลถึง 6% ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตาได้แก่ การเร่งผลิตชิป Blackwell และผลกระทบด้านรายได้จากมาตรการควบคุมการส่งออกไปยังจีน
- ในฝั่งตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับขึ้น 5 จุดพื้นฐาน แตะระดับ 4.49% ก่อนการประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปีวงเงิน 70 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเผชิญความกังวลหลังการประมูลพันธบัตรอายุ 40 ปีพบความต้องการที่ต่ำ สะท้อนแรงกดดันในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก
- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% โดยราคาน้ำมันดิบ WTI แตะระดับ 62.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ Brent อยู่ที่ 64.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ และสั่งห้ามบริษัท Chevron ส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลา ก่อนการประชุมสำคัญของ OPEC+ ในวันเสาร์ ซึ่งคาดว่าอาจเห็นการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม
- ด้านผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกมีความผสมผสาน โดย Macy’s มีกำไรสูงกว่าคาดแต่ปรับลดแนวโน้มทั้งปีจากผลกระทบด้านภาษีและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่ Abercrombie & Fitch รายงานผลประกอบการแข็งแกร่ง พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น
- หุ้น Fannie Mae และ Freddie Mac พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 หลังอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดอีกครั้ง พร้อมรับประกันจากรัฐบาล แม้ยังอยู่ในกระบวนการยุติสถานะการควบคุมโดยรัฐ
- บริษัทรถยนต์เยอรมันอย่าง BMW, Mercedes-Benz และ Volkswagen อยู่ระหว่างการเจรจากับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อขอลดผลกระทบจากภาษีนำเข้า โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายอาจบรรลุข้อตกลงภายในเดือนมิถุนายน
- ด้านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน สู่ระดับ 3.25% โดยให้เหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ออสเตรเลียรายงานเงินเฟ้อ CPI ที่ 2.4% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าคาดเล็กน้อย ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นแสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลจากความต้องการที่อ่อนแอ
- รายงานการประชุม FOMC ที่จะเปิดเผยในคืนนี้ คาดว่าจะย้ำจุดยืนระมัดระวังของเฟดท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและภาษีการค้า โดยประธานเฟดสาขามินนิโซตา Neel Kashkari ยืนยันว่าควรรอให้สถานการณ์เงินเฟ้อชัดเจนก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบาย
- แม้ตลาดฟื้นตัวบางส่วนในช่วงหลัง แต่การจัดพอร์ตยังคงอยู่ในเชิงป้องกัน โดย Barclays ชี้ว่าเงินไหลเข้าสู่กองทุนรวมชะลอตัวในเดือนพฤษภาคม และสภาพคล่องในกองทุนประเภทเงินสดยังสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนต่อการปรับขึ้นของตลาดในอนาคต
หน้านี้มีการใช้คุกกี้ คุกกี้คือไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณและเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ใช้เพื่อช่วยปรับประสบการณ์การใช้งานเว็บของคุณให้เป็นส่วนตัว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา คุณสามารถจัดการคุกกี้ได้โดยคลิก "การตั้งค่า" หากคุณยอมรับการใช้คุกกี้ของเรา ให้คลิก "ยอมรับทั้งหมด"