Crude oil prices have posted a strong two-day rally after a recent series of declines, driven by growing concerns over potential disruptions to Russian supply. WTI crude has risen by nearly 4% this week, recording some of its largest daily gains in weeks.
ภัยคุกคามต่ออุปทานน้ำมันของรัสเซียที่ทวีความรุนแรง
การปรับขึ้นของราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงต่อการส่งออกพลังงานของรัสเซียที่เพิ่มสูงขึ้น มีรายงานว่ารัสเซียอาจพิจารณาออกมาตรการ แบนการส่งออกดีเซล สำหรับบางบริษัท หลังจากที่ถูกโดรนยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่ง ล่าสุด การโจมตีท่อส่งน้ำมันเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ทำให้ ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลในตลาด Spimex ภายในประเทศพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือที่น่าสนใจคือ มีนักเทรดบางรายคาดว่า ความสามารถที่จำกัดในการกลั่นน้ำมันภายในประเทศของรัสเซีย อาจทำให้การส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในที่สุด อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อการจำกัดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ก็ยังไม่สามารถตัดทิ้งได้
ผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียหลัก
หลังมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก ภูมิศาสตร์การส่งออกน้ำมันของรัสเซียเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยผู้นำเข้าหลักคือ:
-
จีน: 47–50% ของการส่งออก (มากกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
-
อินเดีย: 37–38% (ราว 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
-
ตุรกี: 6%
-
สหภาพยุโรป: 6–7% (ลดลงอย่างมากจาก 30% ก่อนรัสเซียบุกยูเครน)
จีนกลายเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียรายใหญ่สุดตั้งแต่ปี 2022 แทนที่ซาอุดีอาระเบีย ขณะที่อินเดียเพิ่มการนำเข้าจากระดับเกือบศูนย์เมื่อต้นปี 2022 และปัจจุบันได้ สิทธิซื้อในราคาพิเศษ ทำให้อินเดียกลายเป็นผู้ รี-เอ็กซ์พอร์ตเชื้อเพลิง ไปยังยุโรปและสหรัฐฯ แม้จะมีแหล่งที่มาจากรัสเซีย
ปัจจุบัน รัสเซียยังคงเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดโลก โดยผลิตน้ำมันดิบกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 10–11% ของอุปทานโลก และส่งออกประมาณ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
การพัฒนา “กองเรือเงา”
รัสเซียได้สร้าง “shadow fleet” ขึ้น ซึ่งประกอบด้วยเรือบรรทุกน้ำมันเก่าแก่หลายร้อยลำ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก โดยกองเรือนี้คิดเป็น 17% ของเรือบรรทุกน้ำมันทั่วโลก ค่าเฉลี่ยอายุตัวเรือประมาณ 20 ปี เทียบกับอายุเฉลี่ยเพียง 13 ปีของกองเรือโลกโดยรวม
กองเรือเงาช่วยให้รัสเซีย เลี่ยงมาตรการกำหนดราคาสูงสุด (price cap) ที่เคยถูกตั้งไว้ที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ได้มีการใช้สูตรใหม่ที่เข้มงวดกว่า คือ ราคาตลาดลบ 15% ทำให้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียอยู่ที่ประมาณ 48 ดอลลาร์
นอกจากนี้ กองเรือเงายังถูกใช้เพื่อ ปกปิดแหล่งที่มาของน้ำมัน ผ่านการถ่ายโอนระหว่างเรือ รวมถึงการใช้ เอกสารประกันปลอมและ GPS tracker เพื่อบิดเบือนข้อมูล
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการตอบโต้ของ NATO
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กิจกรรมทางทหารของรัสเซียใกล้ชายแดน NATO เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงกรณี โดรนและเครื่องบินรุกล้ำน่านฟ้า ที่ได้รับการยืนยันแล้ว เมื่อต้นเดือนกันยายน มีโดรนกว่า 20 ลำเข้ามาในน่านฟ้าโปแลนด์ ตามมาด้วยเหตุการณ์ในโรมาเนีย เอสโตเนีย (เครื่องบิน MiG-31) และล่าสุดในนอร์เวย์กับเดนมาร์ก
NATO ตอบโต้ด้วยการเปิดปฏิบัติการ Operation Eastern Sentry ประกอบด้วย การลาดตระเวนทางอากาศต่อเนื่อง ระบบเรดาร์ที่ทันสมัย และการป้องกันภัยทางอากาศที่เข้มงวดขึ้น ตลอดแนวพรมแดนตะวันออก
ประธานาธิบดี Donald Trump กล่าวว่านานาประเทศ NATO ควร “ยิงสกัดเครื่องบินรัสเซียที่ละเมิดน่านฟ้า” พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรยุโรป หยุดซื้อน้ำมันและพลังงานจากรัสเซียทันที หากไม่เช่นนั้น “เราก็กำลังเสียเวลาเปล่า” แม้ Trump จะมีท่าทีสนับสนุนยูเครน แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าเขาจะเป็นผู้นำในการผลักดันมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซีย
แม้ว่ารัสเซียต้องสูญเสียรายได้จากการส่งออกหลายแสนล้านดอลลาร์จากมาตรการคว่ำบาตร แต่ รายได้รวมยังคงสูงกว่ามาก แสดงให้เห็นว่ามาตรการปัจจุบันยังไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการที่รุนแรงกว่า อาจบีบให้รัสเซียต้องจำกัดกำลังการผลิต และยอมอ่อนข้อในประเด็นยูเครนได้
แนวโน้มตลาดน้ำมัน
น้ำมันดิบกำลังเผชิญกับ การปรับขึ้นรายสัปดาห์แรงที่สุดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน โดยราคาน้ำมัน WTI ขยับเข้าใกล้ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน
แม้ว่าภัยคุกคามต่ออุปทานจากรัสเซียจะยังไม่ถือว่าน่าเป็นห่วงในตอนนี้ แต่ความตึงเครียดที่ยืดเยื้ออาจทำให้ราคาทะลุไปทดสอบระดับ 67 ดอลลาร์ ได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานยังคงบ่งชี้ถึงภาวะอุปทานล้นตลาด ทำให้ราคาที่สูงกว่า 70–80 ดอลลาร์/บาร์เรลดูไม่สมเหตุสมผล หากไม่ใช่เพราะความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมันอาจร่วงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ไปแล้ว
ดังนั้น ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้มากที่สุด คือราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ระหว่าง 61.50–66 ดอลลาร์/บาร์เรล
