ตลาดการเงินโลกผันผวนจากความกังวลธนาคารสหรัฐฯ แต่ได้แรงหนุนจากสัญญาณบวกด้านการค้าจีน-สหรัฐ ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจจีนคละเคล้าและความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นตัวแปรสำคัญ
ตลาดการเงินโลกผันผวนจากความกังวลธนาคารสหรัฐฯ แต่ได้แรงหนุนจากสัญญาณบวกด้านการค้าจีน-สหรัฐ ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจจีนคละเคล้าและความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นตัวแปรสำคัญ
- ดัชนีหุ้นวอลล์สตรีทปิดผสมในวันศุกร์ โดยเปิดตลาดด้วยแรงขายจากความกังวลต่อธนาคารท้องถิ่นในสหรัฐฯ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000 ร่วงลง
- ความกังวลนี้เริ่มต้นหลังจากมีการเปิดเผยคดียักยอกสินเชื่อในธนาคาร Zions Bancorporation และ Western Alliance
- อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มฟื้นตัวเมื่อมีข่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาณว่าเขาไม่ได้มีแผนจะเก็บภาษีสินค้าจีนในวงกว้าง พร้อมกับการเจรจาการค้ายังคงดำเนินอยู่ และคาดว่าจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีจีนในที่ประชุม APEC ช่วงปลายเดือนตุลาคม
- ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับขึ้นมากกว่า 0.5% ขณะที่ Russell 2000 ลดลง 0.6%
- เช้าวันนี้ ฟิวเจอร์สดัชนีปรับตัวบวก โดย US500 +0.34% และ US100 +0.5%
- ในยุโรป ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก ได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นต่อร่างงบประมาณของฝรั่งเศสและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มป้องกันความเสี่ยง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ลอกอร์นู (Lecornu) สามารถผ่านการลงมติไม่ไว้วางใจถึงสองครั้ง
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 4.0% ใกล้จุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ท่ามกลางความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย และความวิตกเกี่ยวกับธนาคารภูมิภาคในสหรัฐฯ
- คู่เงิน EURUSD ดีดกลับหลังจากร่วงแรงเมื่อวันศุกร์ ปัจจุบันซื้อขายเหนือระดับ 1.1670
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โทรพูดคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขยุติสงครามในยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลงจากความคาดหวังว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้น
- ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์ได้พบกับประธานาธิบดีเซเลนสกี โดยมีรายงานว่าเขาได้กดดันให้ยูเครนยอมสละบางพื้นที่เพื่อแลกกับการหยุดยิง และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะส่งมิสไซล์ Tomahawk ให้ยูเครนหรือไม่
- ราคาน้ำมันดิบแทบไม่ตอบสนองต่อเหตุละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในตะวันออกกลาง ที่อิสราเอลกล่าวหาว่าฮามาสเป็นฝ่ายโจมตีจนเกิดการทิ้งระเบิดในฉนวนกาซา แต่เช้าวันนี้มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอาจเข้มงวดนโยบายเพิ่มเติม หากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น โดยการประชุมจะจัดขึ้นปลายเดือนนี้ พร้อมกันนั้น ข้อตกลงภายในรัฐบาลผสมของญี่ปุ่นก็กำลังจะสิ้นสุดลง
- ค่าเงินเยนทรงตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดย USDJPY อยู่ในกรอบ 150–151
- เศรษฐกิจจีนออกมาคละเคล้า ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนเพิ่ม 3.0% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าคาด 2.9% แต่ชะลอลงจาก 3.4% ในเดือนก่อนหน้า
- การผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวแรงขึ้น 6.5% ต่อปี สูงกว่าคาดการณ์ที่ 5.0% และสูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 5.2%
- ข้อมูลการลงทุนยังอ่อนแอ การลงทุนสินทรัพย์ถาวรสะสมตั้งแต่ต้นปีลดลง 0.5% เทียบรายปี แย่กว่าคาดที่ -0.2% และเท่ากับครั้งก่อน ขณะที่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลง 13.9% แย่กว่าคาดที่ -13.1% และครั้งก่อนที่ -12.9%
- GDP จีนเติบโต 4.8% ต่อปี สอดคล้องกับคาดการณ์ แต่ชะลอลงจาก 5.2% และถือเป็นอัตราต่ำสุดของปีนี้ สาเหตุหลักจากปัญหาความตึงเครียดทางการค้าและวิกฤตในตลาดอสังหาฯ
- GDP ไตรมาสต่อไตรมาสขยายตัว 1.1% มากกว่าคาด 0.8% และเท่ากับไตรมาสก่อน
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ระยะ 1 ปี และ 5 ปีของจีนคงไว้ที่ 3.0% และ 3.5% ตามลำดับ
- ราคาบ้านในจีนลดลง 0.41% ต่อเดือน เร็วที่สุดในรอบ 11 เดือน
- โกลด์แมน แซคส์ คาดว่าจีนจะยังคงใช้นโยบายเข้มงวดต่อการควบคุมส่งออกรายเอิร์ธหายาก (Rare Earth) ไปจนถึงปี 2028 เมื่อเหมืองจากการลงทุนในสหรัฐฯ บางแห่งเริ่มผลิตได้
- อัตราเงินเฟ้อในนิวซีแลนด์ไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเป็น 3.0% ต่อปี สอดคล้องคาดการณ์ และสูงขึ้นจาก 2.7% อยู่ที่ขอบบนของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งอาจลดโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ข่าวเด่น: คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีเดือนตุลาคมออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้ EURUSD ขยับขึ้น 📌
ปฏิทินเศรษฐกิจ: รายงาน PCE (ประกาศล่าช้า) คือไฮไลต์สำคัญของวันนี้ 🔎
สรุปข่าวเข้า
ข่าวเด่นวันนี้:ตลาดเคลื่อนไหวระมัดระวัง รอข้อมูลเงินเฟ้อและการตัดสินใจของ FED