- หุ้น STMicroelectronics ร่วงเกือบ 14% วันนี้ หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3
- วอลล์สตรีทเทขายหุ้นบริษัท หลังแนวโน้มธุรกิจในอนาคตไม่แน่นอน แม้ไตรมาสจะ "แข็งแกร่ง"
- หุ้น STMicroelectronics ร่วงเกือบ 14% วันนี้ หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3
- วอลล์สตรีทเทขายหุ้นบริษัท หลังแนวโน้มธุรกิจในอนาคตไม่แน่นอน แม้ไตรมาสจะ "แข็งแกร่ง"
หุ้น STMicroelectronics (STM.US) ร่วงลงเกือบ 14% หลังจากที่ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายนี้เปิดเผยประมาณการรายได้สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2568 ต่ำกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 แต่แนวโน้มดังกล่าวยังส่งสัญญาณถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่องในตลาดหลักๆ โดยเฉพาะในภาคยานยนต์และอุตสาหกรรม
ผลประกอบการไตรมาส 3
- รายได้สุทธิของ STMicroelectronics ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.19 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 15.2% QoQ และเกินความคาดหมายของตลาด
- Non-GAAP EPS ลดลง 21.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 0.29 ดอลลาร์ แต่เพิ่มขึ้น 383% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งแบบต่อเนื่อง
- บริษัทรายงาน การกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานอย่างชัดเจน จาก ขาดทุน 133 ล้านดอลลาร์ใน Q2 เป็น กำไรจากการดำเนินงาน 180 ล้านดอลลาร์ใน Q3
ผลการดำเนินงานตามกลุ่มธุรกิจ
-
Analog, MEMS & Sensors (AM&S) – รายได้เพิ่มขึ้น 7% YoY อยู่ที่ 1.43 พันล้านดอลลาร์ ขับเคลื่อนหลักโดยกลุ่ม Imaging
-
Microcontrollers, Digital ICs & RF (MDRF) – รายได้เพิ่ม 5.3% YoY อยู่ที่ 1.32 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนความต้องการที่มั่นคง
-
Power & Discrete (P&D) – รายได้ลดลง 34.3% YoY อยู่ที่ 429 ล้านดอลลาร์ จากความอ่อนตัวของตลาดอุตสาหกรรมและพลังงาน
Book-to-Bill Ratio ชี้ให้เห็นว่า ความต้องการในตลาดยานยนต์และอุตสาหกรรมยังมีอยู่แต่เริ่มชะลอตัว
แนวโน้มและทิศทางกลยุทธ์
- STMicro คาด รายได้ทั้งปี 2025 อยู่ที่ 11.75 พันล้านดอลลาร์ เล็กน้อยต่ำกว่าความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ 11.79 พันล้านดอลลาร์
- สำหรับไตรมาส 4 บริษัทคาด รายได้ 3.28 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับความคาดหมายของตลาด 3.38 พันล้านดอลลาร์
- CEO Jean-Marc Chery ย้ำถึง ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ของบริษัท ได้แก่:
-
เร่งนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์หลัก
-
ปรับโครงสร้างการผลิตและลดต้นทุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการประหยัดค่าใช้จ่าย
-
เสริมสร้างการสร้าง Free Cash Flow
-
การที่ STMicro ให้ความสำคัญกับวินัยด้านต้นทุนและการลดการใช้จ่ายด้านทุน สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่รอบคอบท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย แต่ก็อาจจำกัดศักยภาพการเติบโตในปี 2568 นักลงทุนยังคงกังวลว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์ในกลุ่มยานยนต์และอุตสาหกรรมอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ราคาหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็วเมื่อวันพฤหัสบดี
ที่มา: xStation5
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์ – Merck & Co Inc (23.10.2025)
IBM Earnings: เติบโตชะลอ ตลาดผิดหวัง
หุ้น BYND.US (Beyond Meat) หลังร่วงหนัก แต่ Short Squeeze ยังมีลุ้น?
Banco Macro พุ่ง +5% รับแรงหนุนกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 🗽