ยอดขาย Tesla ในยุโรปลดลงอย่างหนักในเดือนเมษายน 2025
จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) พบว่า Tesla มียอดขายรถยนต์ในยุโรปช่วงเดือนเมษายน 2025 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยยอดขายทั่วทั้งยุโรปหดตัวประมาณ 49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
เฉพาะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ยอดขายของ Tesla ลดลงมากกว่า 52% YoY สะท้อนแรงกดดันจากการแข่งขันและปัจจัยทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
ที่มา: ACEA (European Automobile Manufacturers’ Association)
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือ
ปัจจัยภายในกระทบ Tesla แม้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายุโรปเติบโตต่อเนื่อง
แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปจะยังคงเติบโตแข็งแกร่ง แต่ยอดขายของ Tesla กลับปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจาก ปัจจัยภายในของบริษัทเอง รวมถึง ภาพลักษณ์ของ Tesla ที่ได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง Elon Musk และประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนและผู้บริโภคในยุโรป ภายใต้นโยบายที่ยังไม่แน่นอนของฝ่ายบริหารสหรัฐฯ
ในเดือนเมษายน 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปยังคงขยายตัวในอัตราที่น่าประทับใจ โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น 27.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) การเติบโตสูงถึง 34.1% YoY
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างตลาดที่เปลี่ยนแปลงอาจเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของ Tesla โดยเฉพาะ การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฮบริด ซึ่งแม้อัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 17% YoY ซึ่งต่ำกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเล็กน้อย แต่ก็เติบโตบนฐานที่สูงกว่า ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้นเป็น 34.6% จาก 29% เมื่อปีที่แล้ว
ในทางกลับกัน รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) กลับสูญเสียส่วนแบ่งตลาดลงเหลือเพียง 28% จาก 36% ในปีที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกที่รถไฮบริดมีส่วนแบ่งตลาดแซงหน้ารถยนต์เครื่องยนต์ปกติในยุโรป
ที่มา: ACEA, Bloomberg Finance L.P., XTB Research
Tesla เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องในยุโรป แม้ตลาด EV ยังเติบโต
ในเดือนเมษายน รถยนต์ไฮบริดกลายเป็นกลุ่มที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในยุโรป ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฮบริดอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม
ที่มา: ACEA
สำหรับ Tesla ข้อมูลล่าสุดสะท้อนถึง ความท้าทายเชิงภาพลักษณ์ของแบรนด์สหรัฐฯ ในสายตาผู้บริโภคชาวยุโรป การประกาศเตรียมใช้มาตรการภาษีตอบโต้ของ Donald Trump ที่อาจกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยตรง ขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของ Elon Musk ที่ถูกตั้งคำถามในช่วงหลัง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บั่นทอนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
นอกเหนือจากปัจจัยทางสังคมแล้ว ยังมี ประเด็นด้านผลิตภัณฑ์ ที่กระทบยอดขาย Tesla ปัจจุบันบริษัท ไม่มีการเปิดตัวโมเดลใหม่ ที่ชัดเจนในตลาดยุโรป โดยแม้จะมีการปรับโฉม Model Y SUV แต่ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคคาดหวังนวัตกรรมที่มากกว่านั้น ส่งผลให้บางส่วนหันไปเลือกแบรนด์อื่นแทน
แม้ Tesla จะยังคงได้รับมูลค่าหลักจากความหวังใน เทคโนโลยีแห่งอนาคต แต่ในปัจจุบัน ธุรกิจหลักของบริษัทยังอยู่ที่ การผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า หากแนวโน้มยอดขายยังคงลดลง บริษัทอาจเผชิญแรงกดดันในการรักษาระดับมูลค่าตลาดสูง (Valuation Multiples) ไปจนกว่าจะมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่จับต้องได้จริง
แม้ยอดขายในยุโรปน่าผิดหวัง ราคาหุ้น Tesla ขยับขึ้นก่อนตลาดเปิด
แม้จะมีรายงานยอดขายในยุโรปที่ลดลงอย่างมาก แต่ราคาหุ้นของ Tesla กลับปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนเปิดตลาด (pre-market) ในสหรัฐฯ ปัจจัยสำคัญมาจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อวานนี้ ทำให้ยังไม่สามารถสะท้อนผลกระทบจากข่าวการ ขยายเส้นตายการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปสูงถึง 50% ซึ่งเป็นประเด็นที่อาจส่งผลบวกระยะสั้นต่อความเชื่อมั่นในหุ้น Tesla
ที่มา: xStation