หนึ่งในภาษีนำเข้าที่สูงที่สุดของสหรัฐฯ พุ่งเป้าสวิตเซอร์แลนด์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้า 39% สำหรับสินค้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดของสหรัฐฯ ขณะนี้ อัตรานี้สูงกว่าที่ประกาศไว้ก่อนหน้าที่ 31% และสูงกว่าภาษีที่กำหนดต่อสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (ซึ่งอยู่ที่ 15%) อย่างมีนัยสำคัญ
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการลดการขาดดุลการค้ากับสวิตเซอร์แลนด์ (ซึ่งอยู่ที่ 38 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา) โดยมีเป้าหมายเพื่อ กดดันให้บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ และแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าในระดับโลก
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้แสดงความ “เสียใจอย่างยิ่ง” และกำลังเจรจาเพื่อให้มีการยกเลิกนโยบายดังกล่าว หากการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จภายในวันที่ 7 สิงหาคม ภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ สหรัฐฯ ยังประกาศด้วยว่า หากมีการพยายามส่งออกสินค้าผ่านประเทศที่สาม จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 40% สำหรับสินค้านั้น ๆ
📉 อุตสาหกรรมหลักของสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่:
-
เภสัชภัณฑ์ (เช่น Novartis, Roche)
-
นาฬิกา (เช่น Swatch, Rolex)
-
ขนมหวาน/ช็อกโกแลต (เช่น Lindt)
สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกนอกยุโรปที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ภาษีใหม่นี้อาจส่งผลให้สินค้าสวิสเสียเปรียบด้านราคา ยอดขายลดลง และในระยะยาว อาจมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น สมาพันธ์อุตสาหกรรมสวิตเซอร์แลนด์เตือนว่าภาษีนี้ “เป็นอันตราย” และอาจสร้างปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างถาวรให้กับภาคการส่งออกของประเทศ
แนวโน้มทางการเงิน & ภาวะเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์
ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนมิถุนายนชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ต่ำมาก โดยดัชนี CPI ทรงตัวที่ 0.0% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.2% รายเดือน สำหรับอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เงินเฟ้อกลับเป็นลบ (-0.3% YoY)
ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0% ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อต่ำ (เชื่อมโยงกับค่าเงินฟรังก์ที่แข็งค่า) และปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดจากภาษีและค่าเงิน SNB อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยเข้าสู่แดนลบอีกครั้งในเดือนกันยายน เว้นแต่จะมีสัญญาณฟื้นตัวของเงินเฟ้อ หรือค่าเงินฟรังก์อ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม SNB ยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการแทรกแซงค่าเงินในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากประสบการณ์ในอดีตแสดงให้เห็นว่า การแทรกแซงนั้นให้ผลแค่ระยะสั้น และอาจสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐฯ ซึ่งมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงตลาดเงิน
ภาพทางเทคนิคของคู่เงิน EUR/CHF
หลังจากมีข่าวภาษี ค่าเงินฟรังก์ของสวิตเซอร์แลนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโร โดย EUR/CHF เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 0.93 ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวหลังจากที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนเมษายนในช่วงเช้าวันนี้
บริเวณ 0.9230–0.9300 เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของคู่เงินยังค่อนข้างจำกัด แต่ถ้าแรงกดดันทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และ SNB ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ค่าเงินฟรังก์อาจอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโรหรือดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
