สัญญาฟิวเจอร์สข้าวสาลีที่ Chicago Board of Trade (WHEAT) พุ่งขึ้นเกือบ 3% ในวันนี้ โดยแตะระดับทางเทคนิคที่สำคัญ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระดับโลกยังคงดำเนินต่อไป สิ่งที่สำคัญในวันนี้คือเกษตรกรสหรัฐฯ ประสบกับสภาพอากาศอบอุ่นและแห้ง ทำให้สามารถปลูกพืชได้เร็วขึ้น แต่จำกัดศักยภาพการปลูกข้าวสาลีทั้งหมด ความเครียดจากภัยแล้งกำลังเกิดขึ้นกับข้าวสาลีพันธุ์ฮาร์ดเรดวินเทอร์ในพื้นที่สหรัฐฯ แพลนส์ โดยคาดว่าจะมีสภาพอากาศร้อนและปราศจากฝนต่อไปอีก 10-12 วัน
- เกษตรกรข้าวสาลีในรัสเซียได้รับผลกระทบจากลูกเห็บ ซึ่งทำให้ปัญหาภัยแล้งที่กำลังดำเนินอยู่รุนแรงขึ้นและลดการส่งออกข้าวสาลีจากรัสเซีย ราคาข้าวสาลียังได้รับแรงดันจากสภาพอากาศแห้งในภูมิภาคทะเลดำ ตามการวิเคราะห์ของ AgResource ที่อ้างอิงจาก Bloomberg นอกจากข้าวสาลีแล้ว สัญญาฟิวเจอร์สถั่วเหลืองที่ CBOT ก็เพิ่มขึ้นจากความต้องการที่ไม่คาดคิดจากนอกจีน
- ขณะนี้ อุปทานข้าวสาลีในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าที่สูงที่สุดตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 ขณะที่การส่งออกได้รับการปรับลดลง สต็อกสิ้นปีของสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาสินค้าเฉลี่ยในฟาร์มอยู่ที่ $5.50 ต่อบุชเชล ขณะที่การคาดการณ์สำหรับอุปทานข้าวสาลีและการค้าทั่วโลกคาดว่าจะลดลง (การผลิตในสหภาพยุโรปลดลง การส่งออกจากรัสเซียและออสเตรเลียชะลอตัว) แม้จะเช่นนั้น สต็อกสิ้นปีทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16)
เมื่อวานนี้ สัญญาฟิวเจอร์สข้าวสาลีที่ CBOT ลดลงเล็กน้อยจากการประมาณการสต็อกข้าวสาลีของ USDA ที่สูงขึ้น สต็อกข้าวสาลีสิ้นปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 27 ล้านบุชเชล เป็น 846 ล้านบุชเชล รายงานดังกล่าวออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ โดยการนำเข้าพุ่งขึ้น 10 ล้านบุชเชล การส่งออกถูกตัดลดลง 15 ล้านบุชเชล และการใช้เมล็ดลดลง 2 ล้านบุชเชล นอกจากนี้ USDA ยังได้ปรับเพิ่มสต็อกสิ้นปีของโลกขึ้น 0.62 ล้านเมตริกตัน เป็น 260.70 ล้านเมตริกตัน
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือWHEAT (H1 interval)

แหล่งข้อมูล: xStation5