ตลาดน้ำมันเผชิญกับการขายทิ้งอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี โดยราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 จากผลกระทบของการประกาศภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการตัดสินใจที่ไม่คาดคิดของ OPEC+ ในการเร่งเพิ่มการผลิต น้ำมันดิบ West Texas Intermediate (OIL.WTI) ร่วงลงถึง 7.4% และซื้อขายต่ำกว่า 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent (OIL) ร่วงกว่า 7% หลุดต่ำกว่า 70 ดอลลาร์
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020
แหล่งข้อมูล: Bloomberg L.P.
ภาษีจุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับการเติบโต
ภาษี "วันเสรีภาพ" ของทรัมป์สร้างความสงสัยใหม่เกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกับการเก็บภาษีอย่างหนักกับประเทศผู้นำเข้ามันสำปะหลังหลัก เช่น จีนและอินเดีย แม้ว่าฝ่ายบริหารจะยกเว้นการไหลของน้ำมันจากแคนาดาและเม็กซิโก แต่ความกลัวว่า สงครามการค้าจะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงทำให้ราคาน้ำมันตกต่ำ
OPEC+ เซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการเพิ่มการผลิต
ในความเคลื่อนไหวที่สำคัญ OPEC+ ได้เปิดเผยแผนการเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนหน้า ซึ่งเป็นสามเท่าของแผนเดิมที่วางไว้ แหล่งข่าวระบุว่า การเคลื่อนไหวนี้มีจุดประสงค์เพื่อกดดันสมาชิกที่ผลิตเกินโควต้า พร้อมทั้งอาจทดแทนบาร์เรลที่สูญเสียจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา
OIL.WTI (D1 Interval)
ราคาฟิวเจอร์สของ OIL.WTI กำลังลดลงเหลือประมาณ 66.5 ดอลลาร์ ทำให้หายไปจากการเพิ่มขึ้นทั้งหมดที่ทำได้ในเดือนมีนาคมภายในเซสชันเดียว ขณะนี้ราคาทดสอบระดับการสนับสนุนสำคัญแรก: ประมาณ 66 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่รวมตัวจากช่วงครึ่งแรกของเดือนมีนาคม หากราคาต่ำกว่าระดับนี้อาจทำให้ตลาดทดสอบระดับ 65.3 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นระดับต่ำสุดของปี
แหล่งข้อมูล: xStation