- ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังเรื่อง ความสัมพันธ์ทางการค้าสหรัฐฯ–จีนที่ดีขึ้น และความตึงเครียดใน ตะวันออกกลางคลี่คลาย
- ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังเรื่อง ความสัมพันธ์ทางการค้าสหรัฐฯ–จีนที่ดีขึ้น และความตึงเครียดใน ตะวันออกกลางคลี่คลาย
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากสัญญาณของ ความเป็นไปได้ในการคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน และการปรับตัวดีขึ้นของ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
ตลาดน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาเผชิญกับ ความผันผวนอย่างรุนแรง เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลก คือ สหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุด
-
ความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงส่งผลกระทบเชิงลบต่อความต้องการพลังงานโลก ทำให้ราคาน้ำมันลดลง
-
อย่างไรก็ตาม คำแถลงล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงความเต็มใจพบกับผู้นำจีน สีจิ้นผิง ช่วยหนุนราคาน้ำมันให้ปรับตัวขึ้นประมาณ 2%
-
สัญญาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 1.8% สู่ 63.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-
น้ำมันดิบ WTI สหรัฐฯ ปรับขึ้น 2.0% ทำระดับสูงกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-
นอกจากนี้ สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น
-
การเยือนอิสราเอลของประธานาธิบดีทรัมป์มีความสำคัญ เนื่องจาก ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส
-
ทรัมป์ประกาศยุติการสู้รบ พร้อมสัญญาจัดประชุมสันติภาพที่อียิปต์ เพื่อยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซาอย่างถาวร
-
การคลี่คลายความตึงเครียดนี้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับ เสถียรภาพของอุปทานน้ำมันจากภูมิภาคสำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นปัจจัยสร้างความผันผวนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์พลังงาน

Source: xStation5
แม้ความตึงเครียดจะคลี่คลายลงชั่วคราว นักลงทุนยังคง ระมัดระวัง และติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ทั้งในด้าน การค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน และ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง
-
ปัจจัยทั้งสองจะมีบทบาทสำคัญในการ กำหนดทิศทางราคาน้ำมันในอนาคต และ ความเคลื่อนไหวของตลาดพลังงานโลก
การส่งออกของจีนเติบโต เร็วที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามการค้ากับสหรัฐฯ 🔎
ตลาดเด่นวันนี้ - GOLD
สรุปข่าวเช้า
ข่าวเด่นวันนี้: ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนกระตุ้นแรงขายรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ “Liberation Day ✂️