น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (OIL.WTI) ฟื้นตัวขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ 58.19 ดอลลาร์ ในวันอังคาร หลังจากที่วันจันทร์ร่วงลง 2% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 การฟื้นตัวเล็กน้อยนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ซื้อจากจีนกลับเข้าสู่ตลาดหลังวันหยุด โดยฉวยโอกาสจากราคาที่ต่ำในปัจจุบัน
การเปลี่ยนท่าทีของ OPEC+ กดดันราคาน้ำมันร่วง
OPEC+ ทำตลาดตกใจด้วยการประกาศเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน ซึ่งเกือบ สามเท่าจากแผนเดิม และนับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันของการเร่งผลิต การเปลี่ยนกลยุทธ์จากการพยุงราคามาเป็นการอัดอุปทานเข้าสู่ตลาด ทำให้น้ำมันร่วงลงกว่า 20% ตั้งแต่เดือนเมษายน หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศนโยบายภาษี ซึ่งสร้างความกังวลทางเศรษฐกิจทั่วโลก
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือแนวโน้มราคาน้ำมันกลายเป็นขาลง
Barclays ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนต์ในปี 2025 เหลือ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ Standard Chartered ลดลงถึง 16 ดอลลาร์ เหลือ 61 ดอลลาร์ Goldman Sachs และ JPMorgan ก็ปรับลดคาดการณ์เช่นกันเนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้รถในฤดูร้อน
Patrick De Haan จาก GasBuddy คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยในสหรัฐฯ จะต่ำกว่า 3 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังโรงกลั่นเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค หลายหมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทยักษ์ใหญ่น้ำมันยังคงเดินหน้าตามแผน
แม้ตลาดจะผันผวน แต่ บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโต โดย Exxon ตั้งเป้าเพิ่มการผลิต 7% และ Chevron ตั้งเป้าเติบโต 9% ในปี 2025
OIL.WTI (กราฟรายวัน D1)
OIL.WTI กำลังซื้อขายใกล้ระดับต่ำเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดการกลับตัวแรง ตามด้วยแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง ฝั่งขาขึ้นต้องทะลุระดับ 64 ดอลลาร์เพื่อให้เกิดโมเมนตัม ขณะที่ฝั่งขาลงมีแนวโน้มทดสอบระดับต่ำเดิมอีกครั้ง RSI แสดงสัญญาณ hidden bullish divergence (กราฟ RSI ทำจุดต่ำสูงขึ้นในขณะที่ราคาทำจุดต่ำต่ำลง) และ MACD แสดงรูปแบบเดียวกัน