หุ้นทั่วโลกเขียวสด น้ำมันและดอลลาร์ร่วง หนุนบรรยากาศลงทุนเชิงบวก
สรุปกลางสัปดาห์: น้ำมันและดอลลาร์ร่วง
โดย Kathleen Brooks, ฝ่ายวิจัย
ดัชนีหุ้นทั่วโลกเขียวสดในวันพุธ หลังจากดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นแรงในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยหลังตัวเลข CPI เดือนกรกฎาคม ดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรยังคงขยับขึ้นต่อเนื่อง แต่ล้าหลังกว่าตลาดยุโรปอื่น ๆ เนื่องจากถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถืออุปทานน้ำมันล้นตลาดกดดัน FTSE 100
ราคาน้ำมันเป็นจุดสนใจในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลว่าอุปทานน้ำมันล้นตลาดทั่วโลกอาจรุนแรงขึ้นในปีหน้า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่าปริมาณสต็อกน้ำมันจะสะสมเพิ่มขึ้นถึง 2.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเร็วกว่าอัตราการสะสมในปี 2020 ช่วงโควิดระบาดหนัก โดย IEA คาดว่าจุดสูงสุดของภาวะน้ำมันล้นตลาดจะเกิดขึ้นปลายปี 2026 ซึ่งอาจกดดันราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 0.3% ในวันพุธ เคลื่อนไหวต่ำกว่า 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันอาจมีโอกาสปรับตัวลงต่อ หลังราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน ที่ระดับ 66.25 ดอลลาร์เมื่อต้นสัปดาห์ ราคาน้ำมันร่วง 1.4% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา และการปรับตัวลดลงนี้ครอบคลุมทั้งกลุ่มพลังงาน ตั้งแต่น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ไปจนถึงก๊าซโซออยล์ นอกจากนี้ ฤดูร้อนที่ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ในยุโรปยังทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงทำความร้อนลดลงด้วย
การพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันศุกร์นี้ อาจเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมัน หากทั้งสองหาทางออกสงครามยูเครนได้ อุปทานน้ำมันล้นตลาดอาจรุนแรงขึ้นอีก และราคาน้ำมันอาจเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องก่อนการเจรจา
สำหรับ FTSE 100 หมายความว่าหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานอย่าง Shell และ BP อาจเผชิญแรงขายเพิ่มขึ้น BP ร่วง 1.6% ในวันพุธ ขณะที่ Shell ก็ปรับตัวลง 0.8% และทำผลงานแย่กว่าดัชนีหลัก หุ้นกลุ่มป้องกันความเสี่ยง (defensive stocks) อย่าง British American Tobacco และผู้พัฒนาอสังหาฯ อย่าง Persimmon ก็เป็นอีกปัจจัยกดดัน เนื่องจากตลาดลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ BOE
Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากหุ้นเทคโนโลยี
ดัชนี Nasdaq พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในวันอังคาร นำโดยแรงซื้อในหุ้นเทคโนโลยี ขับเคลื่อนด้วยการปรับขึ้นเป็นเลขสองหลักของหุ้น Apple และ Tesla ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา รวมถึงหุ้น Palantir ที่พุ่งขึ้น 7% หลังผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด โดยรวมแล้ว หุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การลดดอกเบี้ย และฤดูกาลประกาศงบ Q2 ที่แข็งแกร่ง โดยกำไรของบริษัทใน S&P 500 ไตรมาสล่าสุดเติบโตเกิน 11%
ดอลลาร์ร่วงต่อเนื่อง
ดอลลาร์สหรัฐยังเป็นจุดโฟกัสในสัปดาห์นี้ โดยอ่อนค่ามากที่สุดในกลุ่มสกุลเงิน G10 นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และยังอ่อนต่อเนื่องในวันพุธ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทรงตัวหลังจากพันธบัตรยุโรปปรับขึ้นแรงเมื่อวันอังคาร แต่ก็ไม่ได้ช่วยดึงความต้องการซื้อดอลลาร์ การขายดอลลาร์หนุนให้ทั้งสกุลเงินในกลุ่ม G10 และตลาดเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นแรง โดยเงินเปโซชิลีและแรนด์แอฟริกาใต้ทำผลงานโดดเด่น การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนเชิงบวก ทำให้หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในวันนี้ และสัญญาล่วงหน้าชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐอาจพุ่งต่อในช่วงบ่ายนี้