- หุ้นขนาดเล็กร่วงนำตลาด ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
- ความคาดหวังเงินเฟ้อลดลงในเดือนพฤษภาคม ข้อมูล PCE ลดลงเล็กน้อย
- หุ้น GAP ร่วงจากต้นทุนภาษีนำเข้า
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเผชิญแรงเทขายรอบใหม่ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์จุดชนวนความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอีกครั้ง ด้วยถ้อยแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า “จีนละเมิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์” คำกล่าวหานี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาที่ชะงักงันและความกังวลใหม่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงของจีน โดยเฉพาะในภาคแร่สำคัญและแม่เหล็กโลหะหายาก ถือเป็นการถอยหลังจากข้อตกลงผ่อนคลายภาษีที่เพิ่งบรรลุในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเคยช่วยฟื้นความหวังของนักลงทุนว่าอาจเกิดการพักรบทางการค้า
เริ่มเทรดทันทีวันนี้ หรือ ลองใช้บัญชีทดลองแบบไร้ความเสี่ยง
เปิดบัญชี ลองบัญชีเดโม่ ดาวน์โหลดแอปมือถือ ดาวน์โหลดแอปมือถือขณะเดียวกัน ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ยังเดินหน้าควบคุมเข้มขึ้น โดยมีทั้งการเพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนบางส่วน และการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยี ซึ่งยิ่งสร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ผนวกกับการขาดการสื่อสารระดับผู้นำระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ทำให้ความไม่แน่นอนในตลาดเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนเริ่มกังวลกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง
เปิดตลาดวันศุกร์ ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดย Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็กลดลงแรงที่สุด (-0.4%) ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ทรงตัว และ Dow Jones ปรับขึ้นเล็กน้อย (+0.1%) อย่างไรก็ตาม รายงานจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ออกมาดีกว่าคาด ช่วยลดแรงกดดันลงบางส่วน
อัปเดตข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงการผ่อนคลายเล็กน้อย โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ลดลงจาก 2.6% เหลือ 2.5% แม้จะยังสูงกว่าเป้าหมายของเฟด รายได้ของประชาชนยังคงเติบโตดี แต่การใช้จ่ายชะลอตัวลง แสดงถึงพฤติกรรมที่ระมัดระวังของผู้บริโภค ทั้งนี้ ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นอาจคงแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ PCE และจำกัดบทบาทของการบริโภคต่อการเติบโตของ GDP ในระยะข้างหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนพฤษภาคมปรับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 52.2 ใกล้เคียงกับเดือนเมษายน ขณะที่ความคาดหวังเงินเฟ้อในปีข้างหน้าลดลงสู่ 6.6% และมุมมองระยะ 5 ปีลดลงเหลือ 4.2% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 การฟื้นตัวของดัชนีสะท้อนผลบวกจากการพักภาษีสินค้าจีนชั่วคราว ซึ่งช่วยลดความวิตกของผู้บริโภคได้บางส่วน
แนวโน้มดัชนี Nasdaq 100 (กรอบเวลา D1)
Nasdaq 100 ถอยตัวลงอีกครั้งหลังชนแนวต้านบริเวณ 21,530 จุด สะท้อนถึงแรงต้านทางจิตวิทยาที่กดดันตลาดเทคโนโลยีท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องภาษีนำเข้า แม้ข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะเป็นบวก แต่ความกังวลเรื่องภาษีทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะนี้ US100 ยังอยู่ต่ำกว่าโซน Overbought เล็กน้อย มีความเสี่ยงต่อการย่อตัวลงบริเวณ 20,500 จุด หากแรงขายจากความกังวลเรื่องภาษีเริ่มแซงหน้าปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของบริษัทเทคขนาดใหญ่
Source: xStation5
Company news:
-
American Eagle (AEO.US ) is down 1% after the company missed Q2 operating income estimates and forecasted weaker sales, driven by higher discounts amid assortment misses and inventory write-downs. Management withdrew its full-year outlook due to macro uncertainty but plans $275 million in 2025 capital expenditures.
-
Cooper Cos (COO.US) plunges nearly 15% after the company lowered its organic growth outlook for FY25 despite beating Q2 earnings and revenue estimates. JPMorgan downgraded the stock, citing mixed execution and a slower market recovery, while other analysts view guidance as conservative but highlight solid fundamentals and strong growth in daily silicone hydrogel lenses and surgical segments.
-
Gap (GAP.US) slumps 20% after warning of a $250–$300M tariff hit and ongoing weakness at Banana Republic and Athleta. Despite strength at Old Navy and Gap, investor sentiment soured due to trade headwinds and slow brand turnarounds. Guidance excludes potential tariff costs, adding near-term uncertainty. While management is executing a brand refresh and reporting solid core performance, external pressures and soft discretionary demand may weigh on momentum.