Cattle (วัว) เป็นตราสารอนุพันธ์แบบมีเลเวอเรจ อ้างอิงจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโค (Live Cattle (วัว) Futures) ที่มีการซื้อขายในตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME) และใช้เป็นดัชนีอ้างอิงราคาค้าโคระดับโลก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้บริโภค และนักเก็งกำไร ใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา (Hedging) หรือเพื่อสร้างกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคา
โปรดทราบว่า CFD เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนและมีการใช้เลเวอเรจ (leverage) นอกจากจะมีโอกาสสร้างกำไรได้มากแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนสูงด้วย ดังนั้น การเทรด CFD อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกคน จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
“Live Cattle (วัว)” หมายถึง โคที่เลี้ยงเพื่อผลิตเนื้อวัว ราคาของมันได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนอาหารสัตว์ และความต้องการบริโภคของตลาด
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรด CFD
ตลาดโคเนื้อโลกได้รับอิทธิพลจากสมดุลของอุปทานและอุปสงค์ในประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภครายใหญ่ โดยมีผู้ผลิตสำคัญได้แก่:
สหรัฐอเมริกา: ผู้ผลิตและผู้ส่งออกเนื้อวัวรายใหญ่ การผลิตส่วนใหญ่อยู่ในแถบมิดเวสต์และเกรตเพลนส์
บราซิล: หนึ่งในผู้นำการผลิตและการส่งออกโคเนื้อ มีพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่ที่ใช้ในการเลี้ยงโค
ออสเตรเลีย: มีชื่อเสียงด้านคุณภาพเนื้อวัว และอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการส่งออก
ด้านอุปสงค์ ภูมิภาคที่บริโภคโคเนื้อหลักได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และเอเชีย ซึ่งเนื้อวัวถือเป็นอาหารหลัก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค การเติบโตของประชากร และการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อความต้องการโคเนื้อในระดับโลก นอกจากนี้ นโยบายการค้า ภาษีนำเข้า และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดโคเนื้อโลกเช่นกัน
เวลาเทรด (Trading Hours)
Cattle (วัว) สามารถซื้อขายได้เกือบ 24 ชั่วโมงในวันทำการ ซึ่งสอดคล้องกับเวลาการซื้อขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโคเนื้อ (Live Cattle (วัว) Futures) ที่ตลาด CME
ช่วงเวลาการเทรดหลัก
ช่วงก่อนเปิดตลาด: เริ่มตั้งแต่เวลา 17:00 น. CST ของวันก่อนหน้า (06:00 น. ICT ของวันถัดไป) ต่อเนื่องจนถึงเวลาเปิดตลาดปกติ 08:30 น. CST (20:30 น. ICT / 08:30 น. ICT วันถัดไป)
ช่วงเปิดตลาดหลัก: เวลา 08:30 – 13:05 น. CST (20:30 – 01:05 น. ICT) เป็นช่วงเวลาหลักของการซื้อขายที่มีปริมาณการเทรดมากที่สุดและมีความผันผวนสูง
ช่วงหลังปิดตลาด: เริ่มตั้งแต่เวลา 13:05 – 17:00 น. CST (01:05 – 05:00 น. ICT) ในช่วงนี้ปริมาณการซื้อขายลดลง แต่ราคายังสามารถเคลื่อนไหวได้หากมีข่าวสำคัญหรือข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาด
ความผันผวนที่คาดการณ์
ช่วงเปิดตลาด (8:30 AM - 9:30 AM CST / 21:30 - 22:30 ICT): ชั่วโมงแรกของการซื้อขายปกติมักมีความผันผวนสูง เนื่องจากการตอบสนองต่อข่าวสารที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน ราคาวัตถุดิบสำหรับอาหารสัตว์ และข้อมูลเศรษฐกิจโลก
ช่วงซื้อขายกลางวัน (9:30 AM - 11:00 AM CST / 22:30 - 23:00 ICT): ความผันผวนลดลง ปริมาณการซื้อขายเริ่มน้อยลงเมื่อเข้าสู่ช่วงตลาดที่มีเสถียรภาพมากขึ้น
ช่วงบ่าย (11:00 AM - 1:05 PM CST / 23:00 - 01:05 ICT): ความผันผวนอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อต้อนรับการปิดตลาด
ช่วงหลังปิดตลาด (1:05 PM - 5:00 PM CST / 01:05 - 05:00 ICT): ปริมาณการซื้อขายลดลง แต่ราคายังสามารถเคลื่อนไหวแรงได้ หากมีข่าวสำคัญหรือมีการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์
เวลาเหมาะสมในการเทรด Cattle (วัว)
เมื่อมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ (08:00 – 10:00 CST / 20:00 – 22:00 ICT)
ข้อมูลสำคัญ เช่น รายงานโคเนื้อจาก USDA หรือการประเมินอุปสงค์–อุปทานเนื้อวัวโลก มักสร้างความเคลื่อนไหวรุนแรงในตลาด
เมื่อมีรายงานราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (Feed Price Reports)
ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์เป็นต้นทุนหลักของการเลี้ยงโค การเปลี่ยนแปลงราคาส่วนนี้สามารถส่งผลกระทบต่อราคาซื้อขายโคเนื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาที่ตลาดสหรัฐและยุโรปเปิดพร้อมกัน (07:00 – 11:00 CST / 19:00 – 23:00 ICT)
ช่วงเวลานี้มักมีปริมาณการซื้อขายสูงและความผันผวนเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสจากการเคลื่อนไหวของราคา
ข้อมูลหรือรายงานสำคัญที่ควรติดตาม
- รายงานโคขุนของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA Cattle (วัว) on Feed Report): ให้ข้อมูลรายเดือนเกี่ยวกับจำนวนโคในฟาร์ม ซึ่งสามารถบ่งชี้ระดับอุปทานเนื้อวัวในอนาคต
- แนวโน้มปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และสัตว์ปีกของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA Livestock, Dairy, and Poultry Outlook): นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการผลิต การบริโภค และแนวโน้มตลาด
- รายงานสินค้าคงคลังโคขุนของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA Cattle (วัว) Inventory Report): เผยแพร่ทุกครึ่งปี รายงานนี้ประกอบด้วยข้อมูลจำนวนโคและลูกโคทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
- รายงานการเก็บรักษาในที่เย็นของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA Cold Storage Report): ระบุรายละเอียดปริมาณเนื้อวัวในห้องเย็น ซึ่งบ่งชี้ระดับอุปทาน
- รายงานเนื้อวัวรายไตรมาสทั่วโลก (Rabobank): วิเคราะห์แนวโน้มอุปทาน อุปสงค์ และราคาของเนื้อวัวทั่วโลก
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาของ Cattle (วัว)
ต้นทุนอาหารสัตว์: ราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนการผลิตโค
อุปทานและอุปสงค์ทั่วโลก: ความสมดุลระหว่างการผลิตโคและการบริโภคเนื้อวัวส่งผลกระทบต่อราคา
ข้อมูลเศรษฐกิจ: ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น รายได้และรายจ่ายของผู้บริโภคมีอิทธิพลต่อความต้องการเนื้อวัว ดังนั้นราคาซื้อขายล่วงหน้าของวัวจึงอาจมีผลต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ
นโยบายการค้า: ภาษีศุลกากรและข้อตกลงการค้าอาจส่งผลกระทบต่อกระแสการส่งออกและนำเข้า ซึ่งส่งผลต่อราคา
การซื้อขายเก็งกำไร: กิจกรรมของผู้ค้าในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอาจนำไปสู่ความผันผวนของราคา
ต้นทุนมีผลต่อราคาวัวอย่างไร
ต้นทุนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาวัว ปัจจัยต้นทุนหลักประกอบด้วย อาหารสัตว์ แรงงาน การขนส่ง และค่าใช้จ่ายด้านสัตวแพทย์ ต้นทุนอาหารสัตว์ ซึ่งมักเชื่อมโยงกับราคาข้าวโพดและถั่วเหลือง มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อราคาอาหารสัตว์สูงขึ้น ต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้น นำไปสู่ราคาวัวที่สูงขึ้น
ในทางกลับกัน ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงสามารถลดค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาวัวลดลง นอกจากนี้ ต้นทุนแรงงานและการขนส่ง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากราคาเชื้อเพลิงและระดับค่าจ้าง ก็ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตวัวโดยรวมเช่นกัน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาโดยการลดผลกระทบของสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
XTB International Limited ให้บริการเฉพาะผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ (CFDs) ข้อมูลดังกล่าวอาจเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกับการใช้งานกับเครื่องมือการลงทุนที่ XTB นำเสนอ
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นและใช้สำหรับการศึกษาเท่านั้น ความคิดเห็น การวิเคราะห์ ราคา หรือเนื้อหาอื่น ๆ ในเอกสารนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำแนะนำในการลงทุน หรือเพื่อให้ความเข้าใจด้านกฎหมายของประเทศ Belize
ผลประกอบการในอดีตไม่ได้เป็นการรับประกันถึงผลประกอบการในอนาคต การกระทำหรือการตัดสินใจใด ๆ ตามข้อมูลในเอกสารนี้ เป็นความเสี่ยงของผู้ดำเนินการเอง XTB ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความสูญเสีย ความเสียหาย หรือผลกำไรหรือขาดทุนใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมจากการใช้ข้อมูลในเอกสารนี้
ทุกการตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และเป็นความรับผิดชอบของท่านเอง